Thursday, December 27, 2007
Exercises to increase Height
September 30th, 2007
There are many people all over the world, who wish desperately to enhance their height. They want to have a good height but don’t know the proper ways to increase the height. Due to this many people lose opportunities to take part in many activities and try their choice of fields like army, police force, air force, modeling, air hostess and other fields where height is a demanding criteria. People try many different ways like medicine, acupressure treatments etc. to gain height; but these all are very expensive and doubtful ways and there is no 100% assurance whether it will work or not. The best way to gain height is to do some exercises to increase height.
There are many types of exercises like yoga, stretching and free hand exercises to increase height. Physical trainers and health science experts have accepted the fact that exercising is the best to increase height.
The different exercises to increase height are listed below:
Yoga:
Yoga is a very good form of exercising with no side effects. Few yoga exercises to increase your height are as follows:
Lie down straight on the floor. Let your body rest comfortably. Then slowly stretch your left foot in the direction of right and right foot in the direction of left. Do not stretch too hard. Then bring back your foot to the normal position. Now stretch your right foot towards right and left foot towards left, but follow the same guidelines while releasing.
Lie down on your stomach and chest. Keep your palms on the ground near the hips. Slowly bend your legs from your knees and lift the legs up. Let your thigh remain on the ground to provide you support. Now take your hands backward and try to hold your legs. Try to stretch your legs as much as possible while keeping your torso uplifted. Don’t try to stretch too much. And then relax slowly.
Stretching & Free Hand Exercises:
These exercises to increase height are very useful. Some of the exercises to increase height are as follows:
Forward Bend: To do this exercise stand straight with legs wide spread. Keep your hands up straight and then bend down forward and touch the floor with your hands, without breaking your knees, then return back to your original position.
Spot Jump: Keep your legs close. Stand on your toe and start jumping with your hand straight up in the air for at least 2 minutes.
Bar Hanging: Hold a bar that is at least 7 feet above the ground level (so that your foot doesn’t touch the ground when you hand on the bar with your arms straight). Now swing your body while hanging to the bar. Make sure you do not swing with the help of your wrist. Keep your spine straight while swinging.
There are many more exercises to increase height, but the above-mentioned are few basic and most practiced.
Tuesday, December 11, 2007
FWD mail ที่ซึ้งที่สุด
ฉันเอง ก็ต้องเลือกเหมือนกัน และ ฉันก็ เลือกแล้ว
คราวนี้ ตาพวกคุณแล้วล่ะที่จะต้องเลือกบ้าง
เรื่อง มีอยู่ว่า.....
ชายคน หนึ่งเคยลงโทษลูกสาววัย 5 ขวบของ เขา เพราะนำ เงินไปซื้อกระดาษห่อของขวัญสีทองม้วนหนึ่ง ซึ่งมีราคาแพง
ในขณะ ที่การเงินที่บ้านฝืดเคือง และเค้า ก็อารมณ์เสียอีกครั้งเมื่อลูกสาวของเขานำกระดาษสีทองราคาแพง นั้นมาห่อ กล่องของขวัญเพียงเพื่อตกแต่งไว้ใต้ต้น คริสต์มาส
แต่ กระนั้น...ลูกสาวตัวน้อยก็ได้มอบกล่องของขวัญนั้นให้พ่อของเธอในเช้าวันรุ่ง ขึ้น
และพูด ว่า ' นี่สำหรับพ่อ ค่ะ '
พ่อของ เธอกระอักกระอ่วนกับอาการที่ได้แสดงออกไปก่อนหน้า นี้ แต่แล้ว ความโกรธก็ได้พุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาพบ ว่ามันเป็นเพียงกล่องเปล่า
เขาพูด ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดว่า
' ลูกไม่รู้จริงๆ อย่างนั้นหรือว่าการจะให้ของขวัญใคร
มันจะ ต้องมีอะไรอยู่ในกล่องของขวัญด้วย ? '
เด็ก น้อยมองไปที่พ่อของเธอด้วยน้ำตา และพูด ว่า
' โอ...พ่อจ๋า มันไม่ ใช่กล่องเปล่าเลย หนูเป่าจูบเข้าไปจนเต็ม '
ชายคน นั้นสะอึก ตัวชาด้วยความเสียใจ
เขาทรุด ตัวลงแล้วโอบกอดลูกสาวไว้แน่น
เขาขอ ให้ลูกสาวยกโทษให้เขา
กับท่า ทางโกรธเกรี้ยวเกินเหตุของเขา
ต่อมา ไม่นานอุบัติเหตุก็ได้คร่าชีวิตลูก
สาวของ ชายคนนั้นไป
และว่า กันว่าเขาเก็บกล่องของขวัญสีทองล้ำค่านั้น
ไว้ข้าง เตียงตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว
และ เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกท้อแท้ใจ
หรือ ต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากเย็นแสนเข็น เขาจะเปิดกล่องใบ นี้
เพื่อ หยิบจูบในจินตนาการขึ้นมาหนึ่งจูบ
แล้ว รำลึกถึงความรักของลูกน้อย ที่ได้ใส่จูบนั้นไว้ให้ เขา
ในความ เป็นจริง ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
พวกเรา ทุกคนล้วนได้รับกล่องของขวัญสีทองซึ่ง
บรรจุ ด้วยความรัก ที่ปราศจากเงื่อนไข และรอยจูบจาก
ลูกๆ , ครอบครัว และ เพื่อนๆ
ไม่มี สมบัติใด ล้ำค่าไปกว่านี้อีกแล้ว
ตอนนี้ คุณมี 2 ตัวเลือกแล้วล่ะ คุณจะ
1. ส่งข้อ ความนี้ต่อไปยังเพื่อนๆ และ ญาติๆ ของคุณ หรือ
2. ลบมัน ทิ้งซะ
แล้วทำ เหมือนกับว่าไม่มีอะไรกระทบใจคุณเลยแม้แต่ น้อย
อย่าง ที่เห็นนี่ล่ะ ฉันได้เลือกข้อ 1 ไป แล้ว
เพื่อน คือของขวัญ ผู้ซึ่งพยุงให้เรายืนขึ้นด้วยเท้า
เมื่อ ปีกของเราไม่รู้ว่าจะบินอย่างไร
มองโลก ในแง่ดี และปฏิบัตดี
ฉันขอ ขอบคุณสำหรับ....
สำหรับ สามีที่นอนกรนทั้งคืน
เพราะ นั่นหมายถึงเขากำลังหลับอยู่ที่บ้านกับฉัน ไม่ใช่กับผู้หญิง อื่น
สำหรับ ลูกสาววัยรุ่นที่กำลังบ่นเรื่องล้างจานอยู่
เพราะ นั่นหมายถึงเธออยู่บ้าน ไม่ใช่ที่ถนน
สำหรับ ภาษีที่ต้องเสีย
เพราะ นั่นหมายถึงฉันมีงานทำ
สำหรับ ข้าวของต่างๆ ที่ต้องคอยเก็บหลังงานปาร์ตี้
เพราะ นั่นหมายถึงฉันถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนฝูง
สำหรับ เสื้อผ้าที่พอดีจนเกือบจะคับเกินไป
เพราะ นั่นหมายถึงฉันยังมีกิน
สำหรับ เงาที่คอยมองดูฉันทำงาน
เพราะ นั่นหมายถึงฉัน กำลังได้รับแสงแดด
สำหรับ พื้นที่ต้องคอยขัดถู และหน้าต่างที่ต้องทำความสะอาด
เพราะ นั่นหมายถึงฉันมีบ้านให้ดูแลรักษา
สำหรับ คำบ่นต่างๆ ที่มีต่อรัฐบาล
เพราะ นั่นหมายถึงเรามีอิสระ ในการที่จะแสดงความคิด เห็น
สำหรับ ที่จอดรถที่อยู่ไกลสุดของลานจอดรถ
เพราะ นั่นหมายถึงฉันสามารถเดินได้ และฉันมีรถ
สำหรับ ผ้ากองโตที่รอการซักรีด
เพราะ นั่นหมายถึงฉันมีเสื้อผ้าสวมใส่
สำหรับ ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าทุกสิ้นวัน
เพราะ นั่นหมายถึงฉันสามารถทำงานหนักได้
สำหรับ เสียงปลุกในทุกๆ เช้า
เพราะ นั่นหมายถึงฉันยังมีชีวิตอยู่
และสุด ท้าย.......
สำหรับ อีเมล์ที่ส่งมาหาฉันมากมาย
เพราะ นั่นหมายถึงฉันมีเพื่อนๆ
Tuesday, December 04, 2007
รักแห่งสยาม : ตราบใดยังมีรักย่อมมีหวัง
- วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา -
source
เราอยากทำหนังรักเหมือนคนอื่นๆ เราเก็บเล็กผสมน้อยไปนั่งมองคนที่สยาม เห็นคนเลิกกันแล้วเหมือนดู มิวสิควิดีโอ เราก็งงว่านี่มีใครไปตั้งกล้องถ่ายไว้หรือเปล่า นี่มันหนังชัดๆ เราเห็นความรักหลากหลายรูปแบบ แล้วก็เกิดคำถามว่า ทำไมคนเราต้องรักกัน? ”
จากคำถามนั้น ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล นำมาขยายขึ้นเป็นบทหนังเรื่องหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องรักของ เด็กผู้ชายสองคน ที่เคยอาศัยอยู่บ้านตรงข้ามกัน มิวอาศัยอยู่กับอาม่า ที่ไม่ยอมย้ายตามครอบครัวไปอยู่ระยอง อาม่าสอนให้มิวเล่นดนตรี เพื่อให้ -วันหนึ่งจะได้ใช้เสียงเพลงบอกรักใครสักคน – เหมือนที่อากง เคยบอกอาม่าผ่านเสียงเปียโน ในขณะที่โต้ง อาศัยอยู่ในครอบครัวชาวคาธอลิค ที่อบอุ่น จนกระทั่งวันหนึ่ง แตง พี่สาวของโต้ง หายตัวไปขณะเที่ยวเชียงใหม่ หลังจากแตงหายตัวไป ครอบครัวของโต้งก็ไม่เหมือนเดิม พวกเขาย้ายไป และโต้งกับมิวก็จากกัน
จนกระทั่งทั้งคู่กลับมาพบกันหลังผ่านเวลาไปหกปี ในตอนนั้น อาม่าจากมิวไปแล้ว มิวฟอร์มวงดนตรีกับเพื่อนนักเรียน และกำลังไปได้สวย ในขณะที่โต้งอาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อติดเหล้า และแม่พยายามเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเพื่อประคับประคองครอบครัว หญิงเด็กที่ย้ายมาใหม่แอบชอบมิว ในขณะที่โต้งคบอยู่กับโดนัท ดาวโรงเรียน ทั้งคู่พบกันอีกครั้งกลางสยามสแควร์ จากเพื่อนเก่า ทั้งคู่ๆค่อยเรียนรู้กัน และนำพาความสัมพันธ์ไปไกลกว่าเพื่อนเล่นในวัยเด็ก ท่ามกลางคนรอบข้างที่ต่างทำทุกสิ่งด้วยความรัก หากไม่อาจแน่ใจนักว่าความรักจะนำมาซึ่งความสุขหรือความเจ็บปวดกันแน่
เสียงใจฉันเอง ร้องเพลงให้เธอฟังอยู่
ก่อนหน้านี้เรามักคุ้นชินกับ มะเดี่ยว – ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ในฐานะ คนทำหนังสยองขวัญรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง พิจารณาจากหนังใหญ่ สองเรื่องแรกของเขา อย่าง คน ผี ปีศาจ และ 13 เกมสยอง (ซึ่งสามารถผนวกเอา 12 เข้าไปได้ด้วย) แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ลุกขึ้นมาทำ หนังรักวัยรุ่น หากพิจารณาลำดับหนัง มันอาจชวนให้ขมวดคิ้ว ทั้งที่จริงแล้วนี่คือหนังที่เจ้าตัวอยากทำมาตั้งแต่ก่อนทำ 13 และ ติดอยู่ในใจมาตลอดหลายปี ที่สำคัญ เราอาจเรียกหนังเรื่องนี้ว่า หนังส่วนตัวของมะเดี่ยวได้อย่างเต็มปาก เพราะตัวละคร เรื่องราว ล้วนหลั่งไหลมาจากประสบการณ์ส่วนตัวของตัวผู้กำกับเอง เขาหยิบยกเรื่องของพ่อแม่ พี่สาว กระทั่งเรื่องส่วนตัว ขึ้นมาสร้างให้กลายเป็นหนังเรื่องหนึ่ง ขยายเรื่องส่วนตัวไปสู่เรื่องสากลที่คนทั่วไปร่วมรับรู้ได้
มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย
ไม่ใช่แค่เฉพาะชื่อ หนังเรื่องนี้เป็นหนังรัก หนังรักที่เลยพ้นไปจาก ประเด็นความรัก ชายหญิง หรือกระทั่งชาย ชาย(ซึ่งทำให้หนังถูกมองเป็นหนังเกย์ไป) แทนที่จะโฟกัสความรักแบบใดแบบหนึ่ง ตัวละครในหนังกลับล้วนสะท้อนแบบจำลอง ของ -ความรัก- ทั้งในด้านบวกและลบ ความรักในหนังเรื่องนี้ อาจนิยามจากคู่ความสัมพันธ์ง่ายๆ เช่น รักวัยรุ่นชายหญิง ( มิว-หญิง , โต้ง -โดนัท) ชาย ชาย ( มิว -โต้ง) สามี ภรรยา (กร -สุนีย์ ) พ่อแม่ลูก ( กร+สุนีย์ – โต้ง+แตง , อาม่า-มิว) ความรักระหว่างเพื่อน (มิว -เพื่อน , โต้ง-เพื่อน) หรือกระทั่ง ความรักของคนแปลกหน้า ( จูน – กร + สุนีย์) แต่เลยพ้นไปกว่านั้นเราอาจพูดเสียใหม่ได้ว่า หนังให้เราเห็นทั้งความรักในรูปแบบของการพลัดพรากจากลา (การหายไปของแตง ความตายของอาม่า) ความรักแบบ PUPPY LOVE ที่หวานฉ่ำ และขมขื่นในคราวเดียว(เรื่องของหญิงกับมิว) หรือความรักที่เปราะบางและเจือด้วยการครอบครองเป็นเจ้าของ ( โต้งกับโดนัท) ความรักของเพื่อนร่วมก๊วน ( มิวกับเพื่อน) ความรักที่ถูกทดสอบจากเงื่อนไขของชีวิต ( โต้งกับมิว) ความรักของสามีภรรยาที่ยังทนอยู่ด้วยกัน (กรกับสุนีย์ และฉากไข่พะโล้อันลือลั่น) ความรักของแม่กับลูก (ฉากที่ยอดเยี่ยมมากคือฉากที่สุณีย์ขับรถตามหาลูกทั้งคืน และไม่ว่าอะไรลูกสักคำในตอนเช้า) ซึ่งไม่ได้มีแต่ด้านบวก หากยังทำร้ายได้ในอีกทาง (เมื่อสุนีย์ไปขอร้องมิวให้เลิกคบกับโต้ง) หรือกระทั่งความรักความเห็นใจในฐานะที่เพื่อนมนุษย์มีต่อกัน (จูนกับครอบครัวของโต้ง) เราได้มองเห็นว่า ตัวละครในเรื่องนี้ทุกตัว รักกันและกัน แต่ความรักของแต่ละตัวละครไม่ได้นำพามาเฉพาะแต่ความสุข หากยังนำมาซึ่งความทุกข์ของความพลัดพราก ไปจนถึง ความรักนี่เองที่ทำให้เราทำร้ายกันและกันได้อย่างมากมาย
เราอาจแบ่งตัวละครในหนังได้เป็นสองชุดความสัมพันธ์ โดยแบ่งเป็น ความสัมพันธ์ในแบบ ครอบครัว ( รักต่างเพศ: ครอบครัวของโต้ง ) และความสัมพันธ์แบบ ไม่เป็นครอบครัว ( รักร่วมเพศ : ครอบครัวของมิว และความสัมพันธ์ของมิวกับโต้ง )เราอาจมองได้ว่า หนังเริ่มต้นด้วยการให้ทั้งสองครอบครัวเผชิญความเจ็บปวด เมื่อแตง หายไป และ อาม่าตายลง โต้งกับมิวล้วนเผชิญหน้ากับการพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รัก มิวเติบโตขึ้นในฐานะของเด็กชายผู้อ้างว้างโดดเดี่ยว ไร้เพื่อน และไร้คนเข้าใจ ในขณะที่โต้งเติบโตมาอย่างเก็บกด ความสัมพันธ์แบบชายหญิง ของพ่อกับแม่ ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวแสนสุข แต่การยึดติดกับภาพครอบครัวแสนสุข ทำให้พ่อรับการหายไปของแตงไม่ได้ และแม่รับการเป็นเกย์ของโต้งไม่ได้
ความสัมพันธ์ทั้งสองชุด ล้วนได้รับความเจ็บปวดอย่างเท่าเทียม และในครี่งหลังหนังก็ให้ตัวละครอีกสองตัวเข้ามามีผลกับความสัมพันธ์สองชุดนี้อีกครั้ง เมื่อจูน เข้าไปรับบทแตง ให้กรสบายใจ และ หญิงก้าวเข้ามาในความสัมพันธ์ของมิวกับโต้ง หนังแสดงให้เห็นว่าทั้ง จูน และหญิง เอง ก็ล้วนต้องเผชิญหน้ากับความสัมพันธ์ไม่สมหวัง จูนเป็นตัวแทนของคนจากครอบครัวชายหญิงที่หนี ครอบครัวมา ในขณะที่หญิง เป็นตัวแทนของเด็กสาวที่ไม่สมหวังจากความรัก เพราะเธอรักชายที่มีความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศ (ไม่เป็นครอบครัว )
จูนกับหญิงเป็นเสมือนตัวแทนของคนสองคนที่เจ็บปวดจากความสัมพันธ์ทั้งสองรูปแบบ แต่เป็นสองคนนี้เองที่ให้คนในความสัมพันธ์มองเห็นความบกพร่องในรูปความสัมพันธ์และยอมรับมัน ที่สำคัญคือทั้งจูนและหญิง ทำไปในฐานะความรักที่ปลอดพ้นจากการครอบครองเป็นเจ้าของ
ตั๋วใบนี้ไม่ได้มีสำหรับฉัน แม้เขาจะขายให้ทุกคนได้เท่ากัน แต่รถขบวนนี้ไม่มีที่ให้กับฉัน จึงไม่มีสิทธ์เดินทาง
ในโลกที่มีเพศ ความรักถูกจำกัดอยู่ในเรื่องของชายหญิง แต่ รักแห่งสยาม กลับกล้าหาญพอจะเล่าเรื่องรักของรักร่วมเพศ และที่น่าดีใจไปกว่านั้นคือการเลือกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ ในฐานะที่รักร่วมเพศเป็นพลเมืองโลก !
โดยปกติ เราอาจแบ่งหนังเกย์กันคร่าวๆ เป็น หนังที่ทำให้เกย์กลายเป็นตัวละครไร้เพศ พิจารณาจาก หนังไทยอย่างคู่แรด สืบย้อนไปจนถึง สตรีเหล็ก หรือกระทั่งหนังไทยทั่วไป ที่จัดวางตัวละครรักร่วมเพศในฐานะตัวตลกตามพระ ตามนาง หนังเหล่านี้ทำให้ เกย์ /กระเทย / รักร่วมเพศ มีสถานะเป็นตัวละครไร้เพศ ที่เต็มไปด้วยสีสันจัดจ้านของการพลิกเพศสภาพของตัวเอง การแสดงออกแบบสุดโต่ง เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมแบบขายตรง ในขณะเดียวกัน เราก็อาจพบเจอหนังที่เลือก นำเสนอประเด็นเกย์ ทั้งในฐานะ ยูโทเปียของเกย์ อย่าง เพื่อน กูรักมึงว่ะ หรือ formula 17 หรือ แก๊งค์ชะนีกับอีแอบ กระทั่ง me myself ขอให้รักจงเจริญ หรือไม่ก็หนังแสดงภาพเจ็บปวดระทมทุกข์ของชาวเกย์ อย่าง เพลงสุดท้าย ไปจนถึง PHILADELPHIA หนังทั้งสองกลุ่มนี้ ล้วน ดึง -เกย์ – ออกมาจากโลกสามัญ ให้ -เกย์ โดดเด่น ทั้งในฐานะของคนไร้เพศที่สร้างสีสัน หรือ ฐานะ เกย์ คนชายขอบที่ไร้สิทธิ์ ไปจนถึงเกย์ในฐานะ บุคคลพิเศษ
หากในรักแห่งสยามกลับเลือกนำเสนอ ความรักของเกย์โดยแนบอิงอยู่กับโลกสามัญของชายหญิง โต้งกับมิว เป็นเพียงแค่ -รูปแบบหนึ่ง- ของ ความจริงในความรัก พวกเขารักกัน มีความสุข และความเจ็บปวด ระดับเดียวกันกับที่ กรรักสุนีย์ หรือหญิงกับมิว โดนัทกับโต้ง ฉากจูบในหนังเรื่องนำเสนอในความเงียบ โดยไม่เร้าอารมณ์เลยแม้แต่น้อย ไม่ต่างกับจูบแรกของเด็กสาวเด็กชาย โต้งกับมิว มีเลือดเนื้อในฐานะ มนุษย์ โดยไม่ใช่ มนุษย์ที่เป็นเกย์ ดังนั้นเอาเข้าจริงๆแล้ว หนังจึงไม่จำเป็นต้องประกาศตัวว่า เป็นหนังเกย์ เพราะความรักของเกย์ เป็นความรักที่สามัญไม่แตกต่างจากความรักชายหญิงทั่วไป หนังให้ความรักของเกย์เป็นเพียง อีกแบบจำลองหนึ่งของความรักเท่านั้น
ดังนั้น สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ ผลตอบรับที่คนดูมีต่อหนังเรื่องนี้ การที่หลายต่อหลายคนออกอาการรับไม่ได้ กับฉากจูบของโต้งกับมิว เลยเถิดไปถึงการกล่าวหาว่าหนังเรื่องนี้หลอกลวงให้คนเข้าไปดูหนังเกย์ สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่า สังคมไทยมีมุมมองต่อเกย์อย่างไร เสียงสะท้อนอันแหลมคมนี้มีคุณค่ากว่า การสัมมนาเพศที่สามใดๆ เพราะเราเห็นแล้วว่า หลายคน รับไม่ได้ มีทั้งทัศนคติที่มองว่ารักร่วมเพศคือความเบี่ยงเบน หนังจะทำให้เกิดการเลียนแบบ หรืออะไรต่อมิอะไร กลายเป็นข้ออ้างที่ถูกยกขึ้นมาปิดบังความจริงที่ว่า เราไม่ให้พื้นที่รักร่วมเพศ เว้นแต่จะกลายเป็นตัวตลก หรือไปอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว (ดังที่เคยมีงานวัจัยว่า บาร์เกย์ เป็นสถานที่ส่วนตัว สำหรับรักร่วมเพศ มากกว่าจะทำหน้าที่เป็นบาร์จริงๆ )
เรื่องร้ายจะผ่านเพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์
ที่น่าสนใจคือ จริงๆแล้ว การเป็นเกย์ อาจเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่ง สำหรับการอธิบายความสับสนของวัยรุ่นเท่านั้น
มะเดี่ยวกำกับเด็กวัยรุ่นได้ดี มาตั้งแต่ครั้งทำหนังสั้นอย่าง 2003 หรือ EARTHCORE เขาพูดถึงความเจ็บปวดและบาดแผลของการก้าวพ้นวัย ในหนังเหล่านั้น และในรักแห่งสยาม เขาพูดถึงมันอีกครั้ง ความโดดเดี่ยวของมิว หรือความสับสนของโต้ง ล้วนเป็นสิ่งที่เด็กวัยรุ่นในยุคปัจจุบันต้องประสบพบเจอไม่ใช่หรือ
หนังสะท้อนภาพการ -เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย- ออกมาได้อย่างน่าทึ่ง ความคาดหวังที่สุนีย์บอกกับมิว อาจฟังดูสามัญ แต่สำหรับโต้งกับมิว มันเป็นความกดดันมหาศาล ฉากสุดท้ายของหนังเมื่อโต้งตัดสินใจ บอกลามิว ในทางหนึ่งมันคือ การทำเพื่อแม่ ที่ทำให้โต้งต้องตัดสินใจเช่นนั้น เช่นเดียวกัน เรามองเห็นความโดดเดี่ยวเดียวดายของมิว ความยากลำบากของจูน ไปจนถึง ความเอาแต่ใจของโดนัท ทั้งหมดทั้งมวลเป็นภาพร่าง ความยากลำบากของการเป็นวัยรุ่น ที่ตัวละครในหนังเรื่องนี้ก้าวข้ามมา พวกเขาอาจผ่านมันได้ แต่แต่ละคนต้องพกพาบาดแผลเหล่านั้นติดตัวไปด้วยเช่นกัน
ถ้าบอกว่าเพลงนี้แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม
หนังเลือกใช้เพลง และสัญลักษณ์ อย่างน่าสนใจ แต่ละเพลงของหนังไม่ได้ถูกใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มอารมณ์ฟูมฟายหรือเพื่อขายของ แต่อย่างใด อย่างที่อาม่าบอกมิวตั้งแต่ต้น ว่าสักวันเขาจะใช้เพลงในการสื่อความหมาย มะเดี่ยวก็ใช้เพลงเหล่านี้สื่อความหมาย โลกโดดเดี่ยวของมิว อยู่ในเพลง ticket (ในทางหนึ่งมันเป็นเสมือนการพูดถึงความเจ็บปวดของการเป็นเกย์ ไม่ต่างจากการมีตั๋ว แต่ขึ้นรถไฟไม่ได้) เพลงนี้เป็นเพลงที่มิวเขียนเป็นเพลงแรก ก่อนที่จะเขียนเพลงรักเมื่อเขาเปิดรับเอาโต้งเข้ามาในชีวิต อย่าง รู้สึกบ้างไหม เพลงเพียงเธอ เพลงเก่าของ สุกัญญา มิเกล กลายเป็นเพลงที่บอกความหมายชัดเจนของโต้งกับมิว ก่อนที่ คืนอันเป็นนิรันดร์ เพลงที่เพราะที่สุด แต่ถูกใส่เข้ามาอย่างจงใจที่สุด นำพาตัวละครคลี่คลายไป และ กันและกัน กลายเป็นเพลงที่เป็นเสมือนบทสรุปเรื่องทั้งหมด การเติบโตของโต้งและมิว ความรักที่ยังคงอยู่ และรอยแผลที่จะติดตัวไปกับแต่ละคน
ดั่งในใจความบอกในกวี ตราบใดยังมีรักย่อมมีหวัง
รักแห่งสยามอาจมีปัญหาในแง่ที่ว่า หนังเรื่องนี้ ยังคงเป็นหนังเล่าเรื่อง ที่มีฐานะเป็นหนังอย่างจริงแท้ การวางประเด็น และคลี่คลายบทสรุปทำไปในฐานะภาพยนตร์อย่างเต็มที่ ผลก็คือในฐานะของหนัง มันเล่าเรื่องได้อย่างสมจริงและทรงพลัง แต่ตัวละครในหนังยังคงความเป็น -ตัวละคร- ที่คาดเดาได้ ทุกการกระทำของแต่ละตัวละคร มีผลต่อประเด็นหลักของเรื่องหรือบทพูดสวยงามชนิด QUOTE ได้ ที่มาถึงแบบประดักประเดิด ในบางจังหวะ (แต่ไม่น่าเกลียดมากจนดูเหมือนจับยัดใส่ปาก เพียงแต่เรารู้สึกได้ ว่า คนทั่วไปไม่ได้พูดแบบนั้น) หรือสัญลักษณ์มากมายที่ปรากฏอย่างจงใจ ทั้งผึ้งที่คลานขึ้นมาจากแก้วน้ำ (ซึ่งมะเดี่ยว ทำบูชาครู คริสตอฟ คิชลอฟสกี้ ซึ่งจะว่าไปหนังเรื่องนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับหนังของคิชลอฟสกี้มากทีเดียว หรือ สีของมิว และโต้ง การเลือกตุ๊กตาของโต้งในตอนท้าย หรือรูปถ่ายที่ไม่มีแตง ซึ่งตีความได้ทั้ง แตงที่ไม่อยู่แล้ว หรือแตงที่ไม่เคยไปไหน ในฐานะของคนที่ถ่ายรูปนั้นกับมือ แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือ จมูกของตุ๊กตาไม้ ที่เข้ากันไม่ได้ ซึ่งหากจมูกที่หายไปคือลมหายใจที่สาบสูญ มันก็ไม่สามารถเชื่อมประสานให้กันได้ ไม่ต่างจากความสัมพันธ์ของโต้งและมิว
หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงหนังส่วนตัวของผู้กำกับ มันมีสารที่แข็งแรง มากพอที่จะต้องใช้วิธีการแบบ -หนัง หนัง – ในการเล่าเรื่อง และในขณะเดียวกัน มะเดี่ยวก็เข้าถึงในสิ่งที่ทำอย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ได้จึงกลายเป็นหนังเล่าเรื่อง ที่มีประเด็นชัดเจน และทำได้ดีจนน่าทึ่ง
หนังได้การแสดงที่น่าประทับใจทั้งจากรุ่นใหญ่อย่าง สินจัย เปล่งพานิช และ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ที่แสดงความรู้สึกออกมาในระดับพอเหมาะพอเจาะ อาศัยเพียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อย แสดงความรู้สึกมากกว่าจะพูดออกมาจริงๆ หรือรุ่นกลางอย่าง พลอย ไลลา ที่ไม่โดนสินจัยฆ่าตายคาจอ ในฉากที่เธอต้องเข้าฉากร่วมกัน หรือรุ่นเล็กๆที่ทำได้ดีอย่างทั่วถึง
ความรักของโต้งและมิว ของสุนีย์และกร ของจูนกับครอบครัวของโต้ง หรือของหญิงกับมิวและโต้ง ล้วนไม่ได้จบลงอย่างดงาม ทุกคนไม่ได้กลับมาหวานชื่นในชั่วคืนเดียว หนังแสดงให้เห็นแล้วว่า ทุกคนล้วนต้องเผชิญกับความเจ็บปวด และต้องก้าวข้ามมันไปให้พ้น คำ ตราบใดยังมีรักย่อมมีหวัง ไม่ได้หมายความแค่ การรักใครสักคนจะทำให้เรามีหวัง แต่มันหมายถึง -การมีความรัก- อยู่ในหัวใจ เมือเรายังรักได้ เจ็บเป็น ชีวิตของเราก็ยังมีความหวังพอจะไปข้างหน้า เช่นที่มิวพูดว่า ความรักมันทำให้เราเจ็บปวด (ทำให้เราเหงาเหี้ยๆ) แต่มันจะเป็นไปได้หรือที่เราจะอยู่ได้โดยไม่รักใครหรืออะไรเลย
หมายเหตุ : ตัวหนาทั้งหมดมาจาก เนื้อเพลงประกอบภาพยนตร์ รักแห่งสยาม
Tuesday, September 04, 2007
Quote - Coach carter
Credit: Coach Carter
Lit returns
I'm back, back to reality and face the truth.
I have lots of uncompletion (Mountain of uncompletion :P ). I really have to serious about my life... Those six months are already passed which can not be changed. What I can do now is plan my future....
I feel like my English is suck (and I know I always complain about this but too lazy to get improve..... what a poor little man :P )
Where will the jobs be in 2012?
By Jenny Lynn Zappala
MSNBC contributor
Updated: 5:32 p.m. ET Aug. 17, 2007
credit: MSNBC
The help wanted ads of 2012 will have a scant resemblance to today’s classifieds. Job titles more common in sci-fi novels such as space tour guide and molecular engineer will soon become common place.
Tomorrow’s employers will put a premium on skilled and semi-skilled workers, especially in computers, health care, science and technology. And there will be job openings aplenty in the trades as baby boomers retire.
Are you ready for the brain race?
Opportunities abound as we become an information-rich society, said Marina Gorbis, executive director the Institute for the Future. With a growing number of video cameras, radio-frequency identification chips (RFID) and sensors gushing data, hot jobs will spring up, creating a demand for people who can cope and build new ways to comprehend it, she said. Your cell phone won’t be the only thing that vibrates.
“We’re entering an age where every object, every place, is surrounded by digital data. Massive amounts of data will be streaming in every direction,” Gorbis said. “The only way we’re going to be able to live in this world of massive information is to be able to access it in ways that are more sensory rich. They have to appeal to our senses.”
Paul Saffo, a technology forecaster, said lifelong learning will be the key to unlocking the future. People should expect to change careers six or seven times in their lifetime.
“This is a brain race,” said Saffo, who is on sabbatical from the Institute for the Future. “It’s no longer warm and fuzzy. Lifelong learning will be a forced march. If you stop learning, you will become unemployed and unemployable very quickly.”
Competitive innovation will produce hot jobs that are hard to imagine now. Synthetic biologists are learning to create organisms to perform specific tasks, said Leroy Hood, president and co-founder of the Seattle-based Institute for Systems Biology. In nanotechnology, systems engineers will fabricate new materials with ideal characteristics at the molecular level, said Frieder Seible, dean of the Jacobs School of Engineering at the University of California-San Diego, which opened a nanoengineering department in July. Engineers are building robots in new shapes and sizes.
Businesses should anticipate turbulent times, Saffo said.
“The upside is with uncertainty comes opportunity. If you’re nimble, surprises become opportunities,” Saffo said.
To get a hot job that makes big bucks, think health care or international business, said Lena Bottos, director of compensation at Salary.com. It could bump up your pay by 20 percent or more. It might even double your salary.
Highly skilled health-care professionals, like doctors and specialists, will be in demand because of aging baby boomers, which means big salaries, Bottos said. Health-care careers overall will likely enjoy job security. According to the U.S. Labor Department, 13 of the 20 fastest-growing occupations between 2004 and 2014 are related to health care. Home health aides, medical assistants and physician assistants are in the top five.
In business, professionals with international experience or knowledge — especially in finance or law — will be hot as the emphasis on global trade and business grows, Bottos said. Companies will navigate tax codes, laws, work regulations, environmental regulations and ethical questions worldwide.
“The borders are falling away,” Bottos said.
Governments must address immigration, citizenship and tax issues so workers can travel and collaborate freely, said Rusty Weston, chief blogger at myglobalcareer.com. He points to the rise of the “aerotropolis” — business complexes at airports where jet-setters can fly in, get down to business immediately and stay as long as needed.
“Governments and laws are behind the times,” Weston said. “There needs to be some strategy. Businesses need the talent. ... The job hunters will become the hunted.”
Saffo goes a step further, saying everyone should anticipate living in different countries over their careers to succeed. Hot jobs are worldwide, and the ambitious must follow, especially this generation.
“What we have is global industries, where the center of gravity of industries is moving,” Saffo said. “Anyone who is not fluent in a second language will be at a huge disadvantage even if they never leave this country.”
Right now, the hardest jobs to fill can’t be outsourced or turned over to robots (at least not yet), and they’ll probably still be hot in 2012 because of retiring baby boomers, said Melanie Holmes, vice president of North American corporate affairs for Manpower, a worldwide employment services company. Sales representatives, teachers, mechanics, technicians, managers and truck drivers are the six hardest jobs to fill today, according to Manpower surveys.
The good news: Many of Manpower’s top 10 hardest jobs to fill don’t require a college degree, so they’re more accessible. But that’s part of the problem — the jobs are too ordinary, Holmes said. Delivery drivers, laborers and machine operators, which also made the top 10, are necessary, not glamorous.
“I’m not sure young people have thought of those occupations as attractive,” Holmes said. “Our country needs people who go to trade schools. We’re running out of people like machinists, mechanics and technicians because the people who are doing [those] jobs are retiring.”
In the fast-paced global market, the “clever guys” will command their own price until the talent gap is filled, said Michael Jackson, founder and chairman of Shaping Tomorrow, a British research and analysis service focused on the future. A college degree alone won’t be a free pass to employment anymore.
“Student should be staying ahead and learning about these things, being involved and being engaged,” Jackson said. “They have got to keep learning, keep experimenting and be a part of the team. Don’t be afraid to try something new.”
Tuesday, August 14, 2007
เว็บที่ดีคือเว็บที่ยังทำไม่เสร็จ
อย่าเพิ่งงงกันนะครับ เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ผู้คนส่วนใหญ่มักมุ่งทำเว็บไซต์ให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้ไปทำอย่างอื่น ซึ่งหลายท่านก็พยายามประดิดประดอย ราวกับจะทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ให้เสร็จไปในทีเดียว หรือ บางครั้งอาจจะกลัวว่าเวลามีคนเข้าเว็บแล้ว
หากเว็บไม่พร้อมไม่สมบูรณ์แบบผู้ชมเว็บนั้นจะไม่เข้ามาอีก ดังนั้นกว่าเว็บไซต์จะออนไลน์ได้จริง ก็กินเวลานานมากเกินไป ทำให้ข้อมูลบางอย่างถึงกับเก่าไปแล้ว หรือต้องปรับเปลี่ยนข้อมูลใหม่ถ้าจะเปิดออนไลน์กันจริงๆ
จากประสบการณ์ของผมพบว่า เว็บไซต์ที่ดีนั้นต้องมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ ข้อมูลมีการปรับเพิ่มบางอย่างมีแก้ไขปรับปรุง ทำให้เว็บดูมีความสด ใหม่ และน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้นเวอร์ชั่นเริ่มต้นของเว็บไซต์ ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างครบ เราสามารถปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเข้าไปได้ในภายหลัง คอยดูผลตอบรับจากผู้ชม คำติชม และ นำมาใช้ในการพัฒนา
และ ตราบใดที่ยังต้องการให้เว็บไซต์มีคุณภาพกระบวนการพัฒนาเว็บไซต์นี้ก็จะไม่มีวันเสร็จ เพราะเมื่อเว็บเสร็จหมายถึง เว็บนั้นกำลังจะตายนั่นเอง
เหตุผลอีกประการหนึ่งที่สำคัญในปัจจุบัน เว็บไซต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอยู่สม่ำเสมอ พวกเสริชเอนจิ้น จะชอบมากเป็นพิเศษ อันดับหน้าเว็บ ในเสรชเอนจิ้น จะมีแนวโน้มที่ดีกว่าเว็บอื่นที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย
และ เสริชเอนจิ้นจะกลับมาเก็บข้อมูลหน้าเว็บบ่อยครั้งกว่าเว็บที่ไม่ได้มีการอัพเดต ดังนั้นบางครั้งถ้าท่านมีข้อมูลที่จะนำเสนอจำนวนมาก และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องแสดง ผมแนะนำให้ค่อยๆ ทยอยนำขึ้นเว็บไซต์ไปน่าจะดีกว่าครับ ข้อมูลที่ขึ้นแสดงในเว็บไซต์ถ้าเป็นข้อมูลทั่วไปที่สามารถอ่านได้ทุกช่วงของเวลา ไม่จำเป็นจะต้องลบออกจากเว็บไซต์ เพราะถ้ามีข้อมูลมากๆ ในเว็บไซต์ โดยที่ข้อมูลนั้นยังคงมีคุณค่า จะยิ่งทำให้หน้าเว็บที่เข้าไปอยู่ในระบบของเสริชเอนจิ้นมากไปด้วยส่งผลให้มีโอกาสที่จะมีคนคลิกเข้ามาที่เว็บของท่านมากขึ้น เปรียบเสมือนมีประตูทางเข้าเว็บเป็นจำนวนมาก (Entry Pages)
อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่าในส่วนของหน้าตาสีสันของเว็บ (Design) นั้นควรจะเปลี่ยนบ่อยแค่ไหน ตรงส่วนนี้ ผมอยากจะแนะนำว่าเราไม่ควรเปลี่ยนเรื่องหน้าตา สีสัน บ่อยๆ เพราะจะทำให้คนจำเว็บเราไม่ได้ หรือ จะทำให้เว็บดูไม่มีเอกลักษณ์ หากเลือกใช้สีใดก็ให้ใช้เป็นระยะยาวเลยครับ เพราะมันเป็นส่วนที่เกี่ยวกับการจดจำของผู้คนในระยะยาว ทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้คนรู้สึกว่าเข้ามาแล้วยังเป็นเว็บเดิม เพราะในอินเตอร์เน็ตแค่พิมพ์ผิดตัวเดียวก็อาจไปคนละเว็บแล้ว แต่ในส่วนของเนื้อหาของเว็บ ให้พยายามปรับเปลี่ยนไปสอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน
เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เว็บของท่าน มีชีวิตชีวาพร้อมที่จะโลดแล่นไปในโลกออนไลน์ได้อย่างไม่น้อยหน้าใครแล้วล่ะครับ
เราคงต้องอวยพรกันแปลกๆสักหน่อยนะครับคราวนี้
"ขอให้เว็บของท่านทำไม่เสร็จสักทีนะครับ"
ทรงยศ คันธมานนท์
ReadyPlanet.com Founder
www.ReadyPlanet.com
Credit
Wednesday, May 16, 2007
I know my "Y" and sure about X.
Harrrr...
Got it. I'm pretending to be nice cover the wrong thing.
I just found my Y today while I was taking shower. "Y" is "I'm not belonged" and when I'm not belong, I make a decision that I'm not good enough. From this, I always buy a lot of books, study as much as I can (I mean the tutorial :P ), all equipment must be at hand, etc. Many things proving that I'm not good enough.
The same as this time that I'm gonna be a coach. I think that I also review the Forum again..... It doesn't inspired me at all.
Soooo what is my new possibility???
My posibility that I create for myself and my life is a possibility of "ชัดเึจน" in every area of my life.
How about "Z"????
Z is I have to be on my own. Do I have it yet????
Yes I do. I can do it. I say that without thinking that is it possible or not. That's why I'm always in "doing mode". Yea, doing mode is using me ALL the time....
How about my racket??
I use positive thinking cover all the racket. That's why I don't have much. I just say that "it just the way it is and accept the way it be without fixing or changing it" That is why I don't feel sad when I'm not reach my goal.
Yea yea, I found my racket and more sure about my strong suit
Sunday, April 29, 2007
คู่ขา คู่รัก คู่แต่ง
คู่ขา : คอยคุณที่หน้าโรงแรม
คู่แต่ง : คอยคุณที่หน้าอำเภอ(หย่า)
คู่รัก : นัดเจอกันในงานเลี้ยง
คู่ขา : นัดเจอกันหลังงานเลี้ยง
คู่แต่ง : เธออยู่บ้าน ฉันจะไปงานเลี้ยง
คู่รัก : เปิดหนังโรแมนติก ร้องไห้ด้วยกันตอนจบ
คู่ขา : เปิดหนังเอ๊กซ์ ดูด้วยกันไม่ทันจบ
คู่แต่ง : ซื้อทีวีรุ่นจอเดียว แยกได้สองช่อง
คู่รัก : ไม่พยายามคิดเรื่องทะเลาะกัน
คู่ขา : ไม่พยายามคิดเรื่องเป็นคู่กัน
คู่แต่ง : พยายามคิดเรื่องเป็นโสด
คู่รัก : สนใจทุกเรื่องร่วมกัน
คู่ขา : สนใจเรื่องเดียวเหมือนกัน
คู่แต่ง : สนใจเงินในบัญชีธนาคารร่วมกัน
คู่รัก : โลกนี้เป็นของเราสองคน
คู่ขา : เรื่องนี้รู้แค่เราสองคน
คู่แต่ง : เรื่องทั้งโลกกลาย เป็นเรื่องระหว่างเราสองคนได้ทั้งนั้น รวมทั้งเรื่องของพ่อตาแม่ยาย และญาติสนิทมิตรสหาย
คู่รัก : โทรศัพท์ถึงคุณเพื่อบอกว่า "รักเธอเหลือเกิน"
คู่ขา : เซ็กซ์โฟน
คู่แต่ง : โทรศัพท์มาเพื่อบอกว่า "กลับดึก ไม่ต้องคอย"
คู่รัก : ทุกครั้งที่เขียนใส่สมุดบันทึก คือ บทกวีหวานกลั่นจากหัวใจ
คู่ขา : ทุกครั้งที่เขียนใส่สมุดบันทึก คือ หมายเลขโทรศัพท์คู่ขาคนใหม่
คู่แต่ง : ทุกครั้งที่เขียน คือ เช็คส่วนบุคคล และบันทึกค่าใช้จ่าย
คู่รัก : ตาสบกันริมถนน
คู่ขา : ลิ้นพันกันบนโซฟา
คู่แต่ง : หลังชนกันบนเตียง
คู่รัก : แสดงความอาทรให้เขาสังเกต
คู่ขา : แสดงอาการเมื่อโดนสะกิด
คู่แต่ง : แสดงอารมณ์โดยไม่สะกด
คู่รัก : กล่าวคำอำลาว่า "รักเธอ"
คู่ขา : กล่าวคำอำลาว่า "อย่าลืมกินยาคุม"
คู่แต่ง : กล่าวคำอำลาว่า "ซักผ้าด้วย"
คู่รัก : เรียกคุณว่า ที่รักด้วยเสียงอ่อนหวาน
คู่ขา : เรียกคุณว่า ที่รักด้วยเสียงกระเส่า
คู่แต่ง : เรียกคุณว่า ที่รัก ชงกาแฟแก้ว
คู่รัก : สนใจขนาดนิ้วสวมแหวน
คู่ขา : สนใจขนาดยกทรง
คู่แต่ง : สนใจรอยลิปสติกที่ปกเสื้อ
คู่รัก : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาตั้งใจฟัง และขำกลิ้ง
คู่ขา : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาบอกว่าหยุดเถอะ วันนี้ต้องทำเวลา
คู่แต่ง : เมื่อคุณเล่าเรื่องตลก เขาให้คุณช่วยอธิบายอีกห้านาที พยักหน้าเข้าใจ และก้มหน้าอ่าน หนังสือพิมพ์ต่อ
คู่รัก : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะเข้ามาช่วยคุณอย่างกุลีกุจอ
คู่ขา : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะเข้ามาทำอะไรสักอย่าง จนคุณไม่อยากจะทำอาหารต่อ
คู่แต่ง : เมื่อคุณอยากทำอะไรสักอย่างทาน เธอจะขอให้คุณเผื่อเธออีกจาน
I will NEVER give up.
สิ่งเดียวที่ผมทำไม่ได้คือ "การยอมแพ้"....เรื่องจริงของบุคคลสำคัญของโลก...อ่านแล้วมีกำลังใจ
สิ่งเดียวที่ผมทำไม่ได้คือ "การยอมแพ้" ...เรื่องจริงของบุคคลสำคัญของโลก ..อ่านแล้วมีกำลังใจ
ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะแห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้า ไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู
ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น...ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายามเป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"
ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
ชายกลุ่มหนึ่ง...เป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผู้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ติ้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า "เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน"
หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคนนั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคนนั้น...ชื่อ "ลูดวิก ฟาน บีโธเฟน"
นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก
ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุแล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคนนั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษาระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนในวิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์"
ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย
แกควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"
หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัท บลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า "เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯ หรือไม่ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม
"มาริลีน มอนโร" นั่นเอง
ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคนนั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะ
อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้าคอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ
แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม
หรือที่รู้จักกันในนาม "บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์
มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ
ผมเชื่อว่าทุกคนเคยแพ้ ผมเชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ล้มเหลว คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก
(((..การที่เราล้ม มันไม่ได้ทำให้เราเจ็บอย่างเดียว...แต่มันสอนให้เรารู้จักที่จะลุกขึ้นอีกครั้งแล้วก้าวเดินต่อไป....ใช่ป่ะ)))
Tuesday, March 13, 2007
ขอขึ้นเงินเดือน...
มีความประสงค์ขอขึ้นเงินเดือนโดยมีเหตุผลดังนี้
1. กระผมเป็นผู้ใช้แรงงาน
2. กระผมทำงานในที่ลึกมาก
3. กระผมต้องสอดหัวเข้าไปก่อนทุกครั้งที่ทำงาน
4. กระผมไม่มีวันหยุดสุดสัปดาห์ และไม่เคยหยุดวันนักขัตฤกษ์
5. กระผมทำงานในสภาวะแวดล้อมที่อับชื้น
6. กระผมไม่เคยได้รับค่าล่วงเวลา
7. กระผมทำงานในที่มืด และไม่มีอากาศถ่ายเท
8. กระผมทำงานในที่ร้อนอบอ้าว
9. กระผมทำงานที่เสี่ยงกับโรคติดต่อ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
นายจู๋ กาเจี๊ยว
*******************************************************
จดหมายตอบจากฝ่ายบุคคล
เนื่องจากว่า ทางคณะกรรมการบริษัท พิจารณาแล้ว เห็นว่า คุณไม่สมควรได้รับการขึ้นเงินเดือนอย่างยิ่ง เพราะคุณขาดคุณสมบัติการเป็นพนักงานที่ดีหลายประการ ดังที่เราได้แจงรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. คุณไม่ได้ทำงาน 8 ชม./วัน
2. คุณงีบหลับหลังชั่วโมงทำงานเสมอ
3. คุณไม่ทำตามคำสั่งบ่อย ๆ
4. คุณไม่ประจำอยู่ในที่ทำงานของคุณ และมักแวบไปรับงานที่อื่นบ่อย ๆ
5. คุณมักไม่ทำงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และหลายครั้งที่คุณหยุดงานกลาง ครัน ละทิ้งหน้าที่ก่อนเสร็จงาน โดยเฉพาะเวลามีงานสำคัญที่ต้องทำ
6. คุณไม่มีความเป็นผู้นำ ต้องอาศัยแรงกดดันแรงสั่นสะเทือนเพื่อกระตุ้นให้ทำงาน
7. คุณทิ้งให้ที่ทำงานสกปรก เลอะเทอะ เมื่องานเสร็จ
8. คุณมักไม่ปฏิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัย เช่น การสวมเสื้อป้องกัน
9. คุณไม่สามารถทำงานควบสองกะต่อเนื่องได้
10. คุณเกษียณก่อนอายุ 65 ปี
11. คุณมักจะเข้าและออกจากที่ทำงานพร้อมแบกกระเป๋าที่น่าสงสัยถึง 2 ใบ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
Friday, March 02, 2007
I'm not complete and using X again.
After class, J'Chu said that she wanna talk with me after group meeting. Then I found J'Chu was talking with P'Si so I joyed the conversation. She said that how come can I said like that. I'm not even responsible to myself and my family how can I be a stand for others????? So I said fine!!! I'm not gonna be a leader if she think of me in that way.
On the way back dorm, I still have sth with J'Chu even though I have nothing to say. (may be my personal test is too stronge) But HEY!!! I'm really not complete with her.
This morning, I said that I'm not gonna ask money from my family any more, I'm gonna be on my own. Now, I'm sooo serious that is this gonna be my "Z" suit so I talk with P'Jum and she said that it could be and there is no way to change that. The only way is to follow my being if it change in that way. Is this gonna be my "Z" suit??? I don't know if it's good or bad but is it time to have "Z" suit?????? Is it time for me to be on my own???
Anyway, I know that I'm using my "X" suit by being quite and let the time help which it doesn't work. I know I should talk to her. I know that I should tell her my new way of being. But I'm not dare enough. I'm a coward.
Wednesday, February 28, 2007
Can I read this
The phaonmneal pweor of the hmuan mnid, aoccdrnig to a rscheearch at Cmabrigde Uinervtisy, it dseno't mtaetr in waht oerdr the ltteres in a wrod are, the olny iproamtnt tihng is taht the frsit and lsat ltteer be in the rghit pclae. The rset can be a taotl mses and you can sitll raed it whotuit a pboerlm. Tihs is bcuseae the huamn mnid deos not raed ervey lteter by istlef, but the wrod as a wlohe. Azanmig huh? yaeh and I awlyas tghuhot slpeling was ipmorantt! if you can raed tihs forwrad it.
Friday, February 23, 2007
crack google
วิธีลับในการหาข้อมูลจาก Google สามวิธี ใน Google ที่ให้ได้มาซึ่งทุกอย่าง
ที่อยากดาวน์โหลด ในอินเตอร์เน็ต
คำแนะนำ คุณสามารถใช้วิธีนี้ ในการหาดาวน์โหลดโปรแกรม แคร็ก ซีดี คีย์ หรือต่างๆนานา ที่คุณอยากได้
("index of") (mp3|wmv|wma|ogg)
วิธีที่หนึ่ง พิมพ์คำเหล่านี้ ใน Google Search
(1) "parent directory " /appz/ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(2) "parent directory " DVDRip -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(3) "parent directory "Xvid -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(4) "parent directory " Gamez -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(5) "parent directory " MP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
(6) "parent directory " Name of Singer or album -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
*** หมายเหตุ ให้คุณเปลี่ยน คำที่ตามหลัง parent directory เช่น MP3 Gamez appz DVDRip
เป็นสิ่งที่คุณอยากได้ แล้วก้อค้นหา คุณจะพบกับ ความมหัศจรรย์ใน Google
วิธีที่สอง พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
?intitle:index.of? mp3
จากนั้นแค่เพิ่มชื่อ เพลง อัลบั้ม นักร้อง ลงไป เช่น ?intitle:index.of? mp3 myfavoritesongs
วิธีที่สาม พิมพ์คำต่อไปนี้ใน Google
inurl:micr0s0f filetype:iso
จากนั้น ก้อเปลี่ยน คำว่า micr0s0f กับคำว่า iso เป็นคำที่คุณต้องการ
เช่น inurl:myc0mpany filetype:zip
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แหล่งอ้างอิง :http://www.projectw.org/viewtopic.php?t=1484
01. ไปที่ www.google.com
02. ในช่องใส่ข้อความให้ใส่แบบตัวอย่าง เช่น หาโปรแกรม Winamp
"parent directory " Winamp -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
03. กดปุ่มค้นหาแล้วรอเลือกผลลัพธ์ได้เลย
- - - - - - - - - - - - -
parent directory " /ชื่อโปรแกรม/ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"parent directory " ชื่อเกมส์ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"parent directory " ชื่อMP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"parent directory " ชื่อนักร้องหรืออัลบั้ม -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
แล้วแต่หัวดัดเปลงนะ มันมีอีกแยะเชียว เช่น
"Index of " /ชื่อโปรแกรม/ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"Index of " ชื่อเกมส์ -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"Index of " ชื่อMP3 -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
"Index of " ชื่อนักร้องหรืออัลบั้ม -xxx -html -htm -php -shtml -opendivx -md5 -md5sums
ก็ให้ผลการค้นหาไม่เหมือนกัน ลองศึกษากันไปเองแล้วจะมันมากกับการค้นหา
แถมท้ายครับ..
ฝ่าโลกข้อมูลกับ Google
http://www.justusers.net/articles/internet/google/google.htm
รอบรู้ google มาดูกัน ค้นอย่างไร google ให้ได้ผลตามต้องการ
http://members.lycos.co.uk/physicsdic/modules.php?name=News&file=article&sid=9
Google Help Basics of Search
http://www.google.co.th/intl/th/help/basics.html
Google Help Advanced Search
http://www.google.co.th/intl/th/help/refinesearch.html
ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีกครับ สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้ที่..
http://www.google.co.th/intl/th/help/index.html
เข้ามาเพิ่มเติมอีกหน่อยครับ.. เป็น Operators ต่างๆที่สามารถนำมาใช้ควบคู่กับคำที่ต้องการค้นหาได้.. link ข้างบนก็พอจะมีบอกไว้บ้างแล้ว แต่อันนี้เป็น link ที่ Google โดยตรง..
Topic: Google Help : Cheat Sheet
link:http://www.google.co.th/intl/th/help/cheatsheet.html
Topic: Advanced Operators
link:http://www.google.co.th/intl/th/help/operators.html
1. ใช้เครื่องมือแปลเว็บเพ็จให้เป็นประโยชน์
นอกจากภาษาอังกฤษแล้วที่เราท่านอาจจะอ่านออกบ้าง ไม่ออกบ้างเช่นผม เป็นต้น ถ้าไปเจอภาษาอื่น ๆ
โดยเฉพาะเว็บแคร็กที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ควรจะใช้เครื่องมือแปลภาษาบ้าง จะได้รู้ว่ามันคืออะไร เช่น
http://babelfish.altavista.com/หรือhttp://world.altavista.com/ซึ่งถ้าใครใช้ MyIE2 อยู่แล้วมันก็มีอยู่ในโปรแกรมแล้ว ตรงลูกครสีเขียวเล็ก ๆ (ปุ่ม Go) ข้าง ๆ จะมีลูกศรอันจิ๋วนั่นแหละครับคลิกเลยครับ
2. ใช้ Directories
เจ้านี่จะเป็นตัวช่วยกำจัดข้อมูลที่เราต้องการหาให้เหลือน้อยลงได้เป็นการประหยัดเวลา โดยการหาเฉพาะเรื่องที่เราต้องการเท่านั้น เพราะจัดเรียงตามหัวข้อ
http://directory.google.com/
3. ใช้ “advanced tips”
อันนี้ก้วยเจ๋งบวกอึ้งย้งเลย บางอันผมยังไม่เคยทราบ โปรดทราบว่า x ใช้แทนอักษรหรือคำที่เราต้องการหาครับ
A. "xxxx" ถ้าเราต้องการหาคำเฉพาะเจาะจง ให้พิมพ์ใส่ในเครื่องหมายฟันหนู อย่าลืมว่า google ไม่ใช่ case sensitive หมายถึงว่า เมื่อเราพิมพ์คำว่า Thailand โดยไม่ได้ใส่เครื่องหมาย มันก็จะหาข้อมูลที่มีคำว่าไทยแลนด์มาให้ดูเป็นกระตั้ก
B. -x / ถ้าใส่เครื่องหมายลบอยู่ข้างหน้าตามด้วย / คำที่อยู่ระหว่าง 2 เครื่องหมายนี้จะไม่ถูกค้นหา
C. filetype:xxx / เป็นการหา file extension โดยเฉพาะครับ (exe, mp3, etc)
D. -filetype:xxx / พอใส่เครื่องหมายลบเพิ่มเป็นการบอกว่าไม่ต้องค้นนะ ไฟล์สกุลนี้
E. allinurl:x / เป็นการหา URL ที่เราต้องการ อ่านว่า ออลอินยูอาร์แอล:คำที่ต้องการหา
F. allintext:x / หาคำที่ต้องการในหน้าเว็บ
G. allintitle:x / หา html title ในหน้าเว็บนั้น
H. allinanchor:x / หาคำที่ต้องการในลิงค์ที่โชว์อยู่
I. OR นั่นก็คือหรือนั่นเอง หมายถึงให้หาคำนี้หรือคำนั้น
J. ~X ให้หาคำที่เหมือนกันหรือคล้ายคลึงกัน ในกรณีที่เราคิดอะไรไม่ออกอ่ะครับ
4. ใช้จุดกับตัวเลข
สมมุตินะครับสมมุติว่าผมเป็นเด็ก (ทำไมกลายเป็นน้องพลับไปได้หว่า…) เอาใหม่ เช่นถ้าเราต้องการหาเครื่องเล่น MP3 ราคาอยู่ในราวไม่เกิน $90 เราก็พิมพ์ว่า mp3 player $0..$90 มันก็จะหาให้เราเฉพาะราคาระหว่าง 0~90 เหรียญเท่านั้น เพราะเราใส่จุดไป 2 ตัวนั่นเอง ทิปนี้ใช้กับตัวเลขอื่น ๆ เช่นวันที่ น้ำหนัก ฯลฯ ได้ด้วยครับ
-------------------
5. ใส่เครื่องหมายบวก +
เคยพิมพ์คำที่เราต้องการหาแล้วเจอข้อความนี้ไหมครับ
"The following words are very common and were not included in your search:"
เราสามารถใส่ + หน้าคำที่เราต้องการถึงแม้มันจะเป็นคำธรรมดาเป็นการบังคับกูลเกิลหาให้เราครับ
Thursday, February 22, 2007
My personal test is sooo stronge
Before that, I was so shy to say that even she is my sister. After my conversation, there is nothing. She said, "Yes, that's what she expected. She want to hear everything from me." I was shocked but I'm glad having her as my sister
Love J'Nee just the way she is :)
Wednesday, February 21, 2007
The Most Annoying Things About Windows Vista
Sunday, February 18, 2007
Dr.Philippe Meunier's class
To contact me, send emails to meunier at siit.tu.ac.th.
Research papers are here.
Teaching: href="http://it.siit.tu.ac.th/~meunier/its326it/index.html">ITS326
section 1 (IT), href="http://it.siit.tu.ac.th/~meunier/its326cs/index.html">ITS326
section 2 (CS) and href="http://it.siit.tu.ac.th/~meunier/its226/index.html">ITS226.
Timetable 2nd semester 2006 | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
8:00-9:00 | 9:00-10:30 | 10:30-12:00 | 12:00-13:00 | 13:00-14:30 | 14:30-16:00 | 16:00-17:00 | |
Monday | ITS226 | ||||||
Tuesday | ITS326 IT | ITS326 CS | |||||
Wednesday | ITS326 CS | ||||||
Thursday | ITS326 IT | ||||||
Friday | ITS226 |
Friday, February 16, 2007
Complimentary close
Best,
Peace,
Best regards,
Kind regards,
Thanks / Thank you (if you need to thank your clients for anything)
Thanks & regards
Best wishes,
When it comes to ending a letter you can use the following:
Yours truly,
Yours sincerely,
Sincerely yours,
Cordially,
Respectfully,
Respectfully yours,
Yours faithfully, (I don't think this one is very popular)
Monday, February 12, 2007
No sleep means no new brain cells
The work on rats, by a team from Princeton University found a lack of sleep affected the hippocampus, a brain region involved in forming memories.
The research in Proceedings of the National Academy of Science showed a stress hormone causes the effect.
A UK expert said it would be interesting to see if too little rather than no sleep had the same consequence.
Deficits
The researchers compared animals who were deprived of sleep for 72 hours with others who were not.
They found those who missed out on rest had higher levels of the stress hormone corticosterone.
They also produced significantly fewer new brain cells in a particular region of the hippocampus.
When the animals' corticosterone levels were kept at a constant level, the reduction in cell proliferation was abolished.
The results suggest that elevated stress hormone levels resulting from sleep deprivation could explain the reduction in cell production in the adult brain.
Sleep patterns were restored to normal within a week.
However levels of nerve cell production (neurogenesis) were not restored for two weeks, and the brain appears to boost its efforts in order to counteract the shortage.
Writing in PNAS, the researchers led by Dr Elizabeth Gould, said that although the role of nerve cell production in adults remained unknown, "the suppression of adult neurogenesis may underlie some of the cognitive deficits associated with prolonged sleep deprivation."
People who experience a lack of sleep experience concentration problems and other difficulties.
Sleep expert Dr Neil Stanley, based at the Norfolk and Norwich University Hospital, said the study's findings could not be directly translated to humans because people did not go without sleep for 72 hours, unless they were in extreme circumstances.
But he added: "It is an interesting finding. It would be interesting to see if partial sleep deprivation - getting a little bit less sleep every night that you need - had the same effect."
CreditBBC NEWS
Thursday, February 01, 2007
กลอนวาเลนทาย
หนึ่งคือร้าง คู่เคียง น่าสงสาร
แต่อีกหนึ่ง คือมี ได้พบพาน
อันคู่แท้ ที่ปาน จะกลืนกิน
คนไม่มี คู่อยู่ เคียงข้างจิต
ทำให้คิด น้อยใจ ทำไมหนา
ทำไมต้อง เป็นเรา ที่ร้างรา
ทำไมต้อง เป็นอีกครา ที่เดียวดาย
คนมีคู่ แสนสุขสม อารมณ์จิต
เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ ใช่ใครอื่น
ก็คือคน ที่อยู่ข้าง ทุกวันคืน
เธอคนนั้น ที่ยืน อยู่ข้างกัน
แต่จะมี หรือไม่มี ซึ่งคู่สอง
ขอให้มอง อีกสองสิ่ง ซึ่งล้ำค้ำ
คือพ่อแม่ ญาติมิตร ชิดกายา
และตัวข้า ตัวเอง คือตัวเรา
ไม่มีใคร รักเราได้ เท่าพ่อแม่
ไม่มีใคร ทำให้เรา เท่าทั้งสอง
ไม่มีใคร โอบอุ้ม คอยคุ้มครอง
พ่อแม่นั้น ดุจทอง อร่ามเรือน
และตัวเรา ผู้โหยหา ด้วยความรัก
ขอให้คิด ให้จงหนัก ถึงตัวข้า
ว่าไม่มี ใครจะรัก และเข้ามา
ถ้าไม่รัก ตัวข้า คือตัวเอง
ยก credit ทั้งหมดให้โยนะคร๊าบบบบ ก๊อบมาทั้งดุ้น
Sunday, January 28, 2007
Boosting Metabolism
source
--------------------------------------------------------------------------------
by Susan Woodward for MSN Health & Fitness
Metabolism. Simply put, it’s the process by which the body makes and uses energy (calories) for everything from the cellular absorption of nutrients to running a marathon.
Sounds like pretty boring science on paper. Except that knowing how to efficiently metabolize calories could translate into a healthier body.
Whether you’re trying to lose extra pounds or preparing for the inevitable metabolic slowing that comes with age, here are some surefire ways to boost your metabolism to keep your energy pulsating and your body in shape.
1. Build lean body mass. As mentioned above, metabolism slows as we age – by as much as two percent a year! But there is something you can do to counterbalance nature. “Muscle is the single most important predictor or how well you metabolize your food, how well you burn calories and burn body fat,” insists Shari Lieberman, author of Dare to Lose. Strength training with dumbbells or resistance bands at least twice a week is essential to boosting your metabolism. Repeat – essential. And here’s the really good news: Your metabolism stays pumped for many hours after you finish your workout.
2. Get moving. You know the drill, but here’s a reminder. At least 30 to 60 minutes of walking, jogging, cycling, swimming or some other form of aerobic exercise a minimum of three times a week is the other half of the exercise equation. “People don’t like to hear it but you have got to exercise,” says Lieberman.
3. Eat. It may sound crazy to those trying to lose weight by severely restricting their daily caloric intake, but the problem with this old school of thought, explains Michigan dietician Julie Beyer, is that it actually slows metabolism. “Every cell of the body is like a flashlight bulb,” she explains. “When our bodies don’t get enough food, or fuel, every cell burns less brightly.” Recent studies show that eating smaller meals every three to four hours aids metabolism and weight loss.
4. Ditch the sugar. Of course, you still have to make good choices about what you eat. “When you eat sugar you throw your metabolic switch into fat storage mode,” says Lieberman, who suggests a predominately low glycemic index diet, meaning foods that, unlike sugars, are broken down gradually to help maintain an even blood-sugar level.
5. Don’t skip breakfast. It’s a fact that people who eat a healthy breakfast are skinnier than people who don’t. And try to think outside the box. A breakfast bowl of vegetables and brown rice is a great way to kick-start your metabolism for the day.
6. Include hot foods. If Mexican and Thai are favorites, you’re in luck. “Spicy food that has hot peppers in it appears to boost metabolism,” Lieberman says.
7. Drink green tea. “There are unhealthy things that can boost your metabolism, like a really strong cup of coffee, or nicotine, but I would never say go have a cigarette!” says Michelle Streif, a personal trainer in Nebraska. Nor overdo it on caffeine, which also has undesirable side effects. Instead, go for green tea, says Lieberman, which is known to stimulate metabolism longer and more effectively than coffee.
8. Don’t forget H2O. Staying well hydrated is essential to flushing the body of toxic byproducts that are released when fat is burned. Cold water may also give your metabolism at least a small boost because energy is required to heat the body.
9. Avoid stress. At all costs. “Stress can actually cause weight gain, particularly around the tummy,” says Lieberman. Why? Because physical and emotional stress activates the release of cortisol, a steroid that slows metabolism.
10. Sleep. Research shows that people who don’t sleep for seven to eight hours a night are more prone to weight gain. Additionally, we now know that lean muscle is regenerated in the final couple of hours of sleep each night, says Beyer. Which takes you right back to tip number one!
Present for today
and remember "Time wait for no one"
Yesterday is history...
Tomorrow is a mystery.
Today is a gift.
That's why it's called a present
Seize the day
Thursday, January 18, 2007
Test the product before selling
I can make huge differences.
My aunt kick a basket to my mom when I was young. I said to myself that I's a little kid who can not help anybody. From this context, I also think that nobody can help me.
Change this context to I'm somebody who can make a huge difference to others then I can get others acknowledge.
:)
Tuesday, January 16, 2007
Something from "Devil ware Prada"
So... do my best, stop being a couch potato and start working.
I love my work. :)
Monday, January 15, 2007
Living Passionately
Don't think that I'm helping, think that I'm responsible to it.
Landmark Fever
Be present
("-_-)
Monday, January 08, 2007
Never hungry, never enough
Will I hungry for the knowledge??? I read just to pass the exam. Will I hungry reading?? Not just read for something. Read by my heart. I'm really hunger for knowledge.
Never hungry, never enough
Will I hungry for the knowledge??? I read just to pass the exam. Will I hungry reading?? Not just read for something. Read by my heart. I'm really hunger for knowledge.
Never hungry, never enough
Will I hungry for the knowledge??? I read just to pass the exam. Will I hungry reading?? Not just read for something. Read by my heart. I'm really hunger for knowledge.
Landmark Trap
Don't think that I know a lot, I'm here before you, I'm greater that you.
Don't be soooo high because it's easy to drop but if I'm down below, nobody can make me go down more than this.
Most important, Landmark is not my life, don't feel good or energitic only when I'm in Landmark.
Come and update this again!!!
Sunday, January 07, 2007
Exploring Google's Hidden Features
Google Is a Calculator
When you can’t be troubled to reach over and pick up the handheld
calculator sitting on your desk, you can use Google as a high-tech web-based
calculator. All you have to do is enter your equation or formula into the
standard Google search box, and then click the Google Search button. The result
of the calculation is displayed on the search results page; it’s that
simple.
You can use the standard algebraic operators to construct your
calculations—+, -, x, and / for addition, subtraction, multiplication, and
division, accordingly. For example, to add 2 plus 3, enter 2 +
3 and press Enter. To divide 10 by 2, enter 10 / 2,
and so on.
And Google’s calculator isn’t limited to basic addition and
multiplication. It can also handle more advanced calculations, trigonometric
functions, inverse trigonometric functions, hyperbolic functions, and
logarithmic functions. Just enter the proper formula into the search box, and
wait for Google to display the answer.
Google Knows Mathematical Constants
In addition to performing calculations, Google also knows a variety of
mathematical and scientific constants, such as pi, Avogadro’s Number, and
Planck’s Constant. It also knows the radius of the Earth, the mass of the
sun, the speed of light, the gravitational constant, and a lot more.
For example, if you’re not sure what the value of pi is, just enter
pi into the Search box and press Enter; Google returns
3.14159265, as it should. How about the speed of light? Enter speed of
light, and Google returns 299,792,458 m/s. It’s amazing what
Google knows.
Google Converts Units of Measure
Another surprise is that Google’s calculator also handles conversions.
It knows miles and meters, furlongs and light years, seconds and fortnights, and
even angstroms and Smoots—and can convert from one unit of measurement to
another.
The key to using the Google calculator as a converter is to express your
query using the proper syntax. In essence, you want to start with the first
measure, followed by the word "in," followed by the second unit of
measure. A general query looks like this: x firstunits in
secondunits.
For example, to find out how many feet equal a meter, enter the query
1 meter in feet. Not sure how many teaspoons are in a cup?
Enter 1 cup in teaspoons. Want to convert 100 U.S. dollars into
Euros? Then enter 100 usd in euros. And so on and so forth.
Google Is a Dictionary
Want to look up the definition of a particular word, but don’t want to
bother pulling out the old hardcover dictionary? Not sure of a specific
spelling? Then use Google as an online dictionary to look up any word you can
think of. It’s easy—and there are two ways to do it.
The first approach to looking up definitions is to use a ´All you have
to do is enter the keywords what is in your query, followed by
the word in question. (No question mark is necessary.) For example, to look up
the definition of the word "defenestrate," enter what is
defenestrate.
When you use a "what is" search, Google returns a standard search
results page (typically with several useful definition links in the list), as
well as a definition section at the top of the page. This section includes a
short definition of the word and two useful links. The first link, disguised as
the result title, is actually a link to other definitions of the word on the
web. The second link, Definition in Context, displays an example of the word
used in a sentence.
Google Is a Glossary
Even more definitions are available when you use the Google Glossary feature.
Google Glossary is what Google calls it, anyway; really, it’s just another
advanced search operator that produces some very specific results.
The operator in question is define:. Use this operator
before the word you want defined, with no spaces between. So, for example, if
you want to define the word "defenestrate," enter the query
define:defenestrate.
When your query includes the define: operator, Google
displays a special definitions page. This page includes all the definitions for
the word that Google found on the web; click a link to view the full definition.
And here’s something else to know. If you want to define a phrase, use
the define: operator but put the phrase in quotation marks. For
example, to define the phrase "peer to peer", enter the query
define:"peer to peer".
Google Lists All the Facts
When you’re looking for hard facts, Google might be able to help. Yes,
Google always returns a list of sites that match your specific query, but if you
phrase your query correctly—and are searching for a fact that Google has
pre-identified—you can get the precise information you need at the top of
the search results page.
What types of information are we talking about? Fact-based information, such
as birthdates, birthplaces, population, and so on. All you have to do is enter a
query that states the fact you want to know. For example:
- To find the population of San Francisco, enter population san
Francisco. - To find where Mark Twain was born, enter birthplace mark
twain. - To find when President Bill Clinton was born, enter birthday bill
clinton. - To find when Raymond Chandler died, enter die raymond
chandler. - To find who is the president of Germany, enter president
germany.
The answers to these questions are displayed at the top of your search
results page. You get the precise answer to your question, according to the
referenced website. Click the associated link to learn more from this
source.
Google Displays Weather Reports
Did you know that Google can be used to find and display current weather
conditions and forecasts? It’s a pretty easy search; all you have to do is
enter the keyword weather, followed by the location. You can
enter the location as a city name, city plus state, or Zip code. For example, to
view the weather forecast for Minneapolis, enter weather
minneapolis.
Google displays current weather conditions and a four-day forecast at the top
of the search results page. And, while this is a good summary report, you may
want to click through to the more detailed forecasts offered in the standard
search results listings below the four-day forecast.
Google Knows Current Airport Conditions
Weather information is important to travelers, as is information about flight
and airport delays. Fortunately, you can use the main Google search page to
search for this information, just as you did with weather forecasts.
To search for weather conditions and delays at a particular airport, all you
have to do is enter the airport’s three-letter code, followed by the word
airport. For example, to view conditions at the Minneapolis-St.
Paul International Airport (with the code MSP), enter msp
airport. This displays a link to conditions at the chosen airport;
click this link for detailed information.
Google Tracks Flight Status
Google also lets you track the status of any U.S. flight and many
international flights. All you have to do is enter the flight number into the
Google search box. For example, to find out the status of United Airlines flight
116, enter ua116.
Google now displays links to three sites that let you track the flight
status—Travelocity, Expedia, and fboweb. Click one of these links to view
real-time flight status—including maps of where the plane is in its
route.
Google Tracks Packages
Airline flights aren’t the only things you can track with Google.
Google also lets you track the status of package deliveries, from the U.S.
Postal Service, FedEx, and UPS. All you have to do is enter the package’s
tracking number into the Google search box, and Google will display a link to
the service’s tracking page for that package.
Google Is a Giant Phone Directory
As part of its massive database of information, Google now includes listings
for millions of U.S. households in what it calls the Google PhoneBook. You
search the PhoneBook listings from the main Google search box, using specific
query parameters.
All you have to do is enter some combination of the following parameters:
first name (or initial), last name, city, state, or Zip code. For example, to
search for John Smith in Minneapolis, enter john smith minneapolis
mn. As you might suspect, the more details you provide, the more
targeted your results will be.
When you enter your query using one of these methods, Google returns a search
result page with a PhoneBook Results item at the top of the results list. The
two or three names listed here aren’t the only matches in the Google
PhoneBook, however. To see the other matching names, click the PhoneBook Results
link; this displays a full page of PhoneBook listings.
And here’s something even more cool—Google lets you perform
reverse phone number lookups. Just enter the full phone number, including area
code, into the standard Google search box. You can enter all 10 numbers in a
row, without hyphens (like this: 1234567890), or use the
standard hyphenated form (like this: 123-456-7890); Google
accepts either method. When you click the search button, Google displays a
single matching PhoneBook result.
Google Knows Area Codes
It goes without saying that if Google knows phone numbers, it also knows area
codes. If you have an area code and want to know which city it serves, just
enter the area code; Google will return the city in which that area code
resides.
Google Has Movie Information
Numbers aren’t the only types of information available via a Google
lookup. You can also use the standard Google search box to look up movie reviews
and showtimes. All you have to do is enter the word movies
followed by the name of the movie. For example, to find out when Casino
Royale is showing in your neighborhood, enter movies casino
royale.
Google now displays a movie information section at the top of the search
results page. From here you can click to view movie reviews, showtimes for a
theater near you, and so on.
And if you can’t remember the name of a given movie, you can use Google
to figure it out for you. Just enter the movie: operator,
followed by whatever information you do know—an actor’s name, the
movie’s director, a plot detail, or whatever. Google returns a list of
movies that match your search criteria, along with reviews for each movie
listed. Click the movie title to view more reviews for that movie.
Google Loves Music
Google not only lets you search for movie information, it also is a great
search engine for music. Google knows the names of tens of thousands of popular
performers; all you have to do is enter the performer’s name in the search
box, and Google returns specific information about that performer.
For example, when you search for norah jones, Google
displays a Norah Jones section at the top of the search results page.
This section includes a brief listing of the artist’s most recent (or most
well-known) albums and songs.
And there’s more. Click the performer’s name and you see a visual
listing of the artist’s albums. Click any album art or title and you see a
listing of album tracks, a link to album reviews, and links to download tracks
from the album from a variety of online music stores. Back on the main artist
page, there are also links to websites devoted to the artist, news about the
artist, photos of the artist, and mentions of the artists in Google Groups
discussion forums.
Google Knows the Answer to the Ultimate Question
Let’s return to Google’s calculator for one final hidden feature.
As you recall, the Google calculator has been hardwired to include the answers
to some fairly complex—and fairly fanciful—calculations. For a bit
of fun, try entering the query what is the answer to life the universe
and everything. Google’s answer should delight long-time fans of
Douglas Adams’ The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy.
(It’s "42", in case you were wondering.)
Wednesday, January 03, 2007
Wake Up W/O an Alarm
How to Wake Up Without an Alarm Clock
Source
Fingernails screeching down a blackboard, the shrill tones of the Emergency Alert System, Carrot Top: few things are as obnoxious as an alarm clock. Human beings have survived for most of our history without these confounded noisemakers—-why would you need one now? The answer, of course, is that everyone else has one, and it would look bad if you were the only one wandering into the office two hours late. But like momma said, just because everyone else is doing it doesn’t mean you should. Waking up naturally is much easier on you, as your body will slowly adjust from deep sleep to a calm awakening. Here’s how to separate yourself from the alarm clock without quitting your job or dropping out of school.Get Into a Rhythm
- Determine what time you need to wake up on most days. Make this your sleep goal.
- Use your alarm clock to wake up at approximately that same time each morning. Our bodies’ physiological processes are governed by the circadian rhythm, a cycle that in humans is closely adapted to the 24-hour day. You will get use to waking up. By training yourself to wake up at the same time each day, you “set” your circadian rhythm.
- Figure out how much sleep you really need. Depending on your age, you probably need 7-10 hours of sleep each night. Individual sleep needs vary, however. Getting adequate rest is the most obvious way to help you wake up when you want.
- Go to bed at approximately the same time every night. Once you know when you need to get up and how much sleep you need, you can determine what time you need to go to sleep. While you may initially find it difficult to go to bed at the same time each night, if you make an effort to do so it will become easier over time.
- Wean yourself off the alarm clock. After as little as a week of using a regular bed time and wake-up time, you should be able to wake up at about the correct time without your alarm. The more consistent your schedule is, the better, but even if you occasionally go to bed later or earlier than your usual time, your body should still feel ready to get up at your set time.
Use Your Senses
- View your sleeping environment and decide what you can control. Awakening can be triggered by external cues such as light and sound; hence the effectiveness of the alarm clock. These triggers can override the circadian rhythm.
- Light: Your mind will respond to light and bring you out of sleep. Leave your curtains or blinds open to wake up with the sunrise. Close them if you need to sleep later. Adjust the positioning of your bed to catch the light at the right time—you may need to move your bed occasionally since the sun will strike your room at a slightly different angle as the seasons progress. If you are camping, locate your tent so that the sun will hit it unobstructed (make sure there are no trees, hills, etc. that will prevent the sun from hitting your tent early in the morning). Remember that the sun rises in the east; in the northern hemisphere a south-facing orientation will receive more sunlight, and in the southern hemisphere a north-facing orientation will get more, but unless you are trying to wake up when the sun is high in the sky, you will still want to face to the east to catch the sun when it rises. As stated earlier, the position of your bed will depend heavily on the time of the year, and the time you want to wake up. If you need to get up before the sun rises, putting the lights in your room on a timer can also help, as this may not seem as disruptive as an alarm clock.
- Sound: Noises (such as that pesky alarm) also bring you out of sleep. Identify what sounds regularly occur around where you sleep—and when they occur. Trains, automobiles, animals, and other people going about regular tasks can serve as waking cues. You can take advantage of this by noting what wakes you up and when. Consider leaving your window open to capture more sounds.
- Temperature: Your sleeping body is very sensitive to temperature. If you turn your heat down at night and have a timer on your thermostat, you can set the heat to come back on about an hour before you want to wake up. Assuming you were at a comfortable sleeping temperature all night, this should prompt you to awaken. You can also use temperature in conjunction with light, since sunlight hitting your bed directly will warm you up. You may even be able to choose what blankets you use so that you will be comfortable throughout the night (your body temperature drops after midnight), but begin to get too hot as your body temperature naturally rises (regardless of external temperature), toward the end of your sleep cycle. If you want to take a brief nap outside on a hot day (when you are camping or backpacking, for instance), you can choose someplace to sleep where you will be in a shadow initially, but where you will eventually be in the sun.
- Smell: If you drink coffee regularly, the easiest way to use smell as a trigger to awake is to put your coffee maker in your bedroom and set its timer for just before when you want to wake up. The brewing coffee may coax you out of sleep, and if you’re tired when you wake up, you don’t have far to go for a cup of joe.
- Feeling: Drink a tall glass of water before going to bed. You will find that you wake up very promptly.
Set Your Mental Alarm Clock
- Recognize that scientists have been unable to prove that the "mental alarm clock" can or should work effectively. That said, many folks swear by it. Others report that it makes them tensely look at their watch every 30 minutes to make sure they don't oversleep. If you want to experiment, follow the steps below:
- Determine what time you need to wake up. Unlike the method above, this method does not require that you wake up at the same time each morning. Scientists have discovered that about an hour before a person expects to wake up, the body begins releasing a relatively high concentration of the hormone adrenocorticotropin into the blood. They believe that this may prepare the person to wake up. If this is true, you need only prompt the release of this hormone at the right time.
- Note the time when you go to bed.
- Calculate the number of hours before your intended wake-up time. If possible, try to sleep for a multiple of about 90 minutes; your sleep cycle repeats in approximately 90 minute intervals (this will differ from person to person). You can use this to your advantage, as it's easier to awaken from the lighter part of your sleep cycle.
- Envision your wake-up time. As you lie in bed, think about the time at which you want to wake. Visualize a clock with that time on it, and visualize yourself getting up at that time. You may even find it helpful to tell yourself out loud, “I will wake up at (the desired time).” While this may sound silly, controlled experiments have revealed that many people can use these techniques to successfully and regularly awaken at the correct time without using an alarm or other external trigger. How the brain manages to keep track of the hours is unknown.
- Use your alarm clock as a backup. If you have an alarm clock available, and you absolutely must wake up at a certain time, it is best to set it just in case this method doesn’t work. Many people are apparently unable to use this method effectively. Additionally, using an alarm clock may also help you to wake up before the alarm goes off because you will truly expect to awake at that time. This strong expectation should prompt the release of adrenocorticotropin. While adding this step doesn’t really free you from the alarm clock, you may still be able to enjoy awakening without the harsh jolt of the alarm.
Tips
- Using your circadian rhythm and regularly getting the same (adequate) number of hours of sleep during the same time period is the most effective way to wake up for most people. You can combine all three methods above for extra effectiveness. If you must deviate from your established sleep pattern, it would be wise to use an alarm.
- Since core body temperature is naturally higher during morning and normal waking hours, if you need to sleep in the morning or day it may help to allow your body a slightly cooler sleeping environment. This may enable you to fall asleep more quickly, rest better, and thereby be able to wake up at the desired time.
- Children are also a very effective replacement to an alarm clock. In most cases they even wake you up earlier so that you gain additional time in the morning.
- As you're lying in bed, look at the time, (say, 9:30) and decide what time you want to wake up (say, 6:30). For about 20 seconds say this in a whisper, while thinking intently about it: "It's 9:30, and I need to wake up at 6:30, it's 9:30, and I need to wake up at 6:30..." Don't stay up too long reciting this, though...you could oversleep.
Warnings
- Be aware that time changes for daylight-savings can interfere with your body's alarm clock.
- Drinking alcohol to help with falling asleep can lead to poor sleep later—as well as long-term difficulties with snoring and sleep apnea. If you use it, do so sparingly.
- Caffeine can help cover feelings of sleepiness, but may also interfere with your ability to sleep later—when you really want to be sleeping—and thereby confuse your sleep clock. Use it sparingly and avoid caffeine completely in the hours prior to your desired bedtime.
- Be careful of taking naps. Napping can mess up the circadium rythms set by a regular sleep schedule. They can make it harder to fall asleep at the planned time. If you do need to nap, try to keep it under 30 minutes. If you are napping every day, then make this part of your regular schedule and take the same length nap at the same time each day.
- Stress hormones keep your body alert and interfere with sleep. This can be used to your benefit if you're worried about waking up and therefore sleep lightly, but regular sleep patterns are difficult to establish when your body is stressed. Find ways to relax so you can sleep better and wake up when you want.
- None of these methods are 100% effective, and what works for one person may not work for another. Try them out when you don’t have something vitally important to do at a certain time, or use your alarm clock as a backup.
- If you work "nonstandard" hours, your sleep–wake cycle is likely somewhat confused already. You can use these techniques to help settle your body into a better sleep rhythm, but this may take significant time. If you frequently have to work different shifts, these techniques will be especially difficult to use.
- If your work demands long periods of time without sleep or with sporadic sleep (e.g., medical resident), then it may be necessary to rely on an alarm, possibly as a backup in case these methods do not work.
- Don't expect this to work if you're under 25 or so, most young people have lives that involve many different kinds of hours.
Related wikiHows
- How to Wake up As Soon As the Alarm Goes off
- How to Get Better Sleep
- How to Sleep Easily
- How to Adopt a Polyphasic Sleep Schedule
- How to Know if You Have a Sleep Apnea
- How to Cope With Sleep Paralysis
External Links
- National Sleep Foundation
- Hallym University (Korea) Information about circadian rhythms
- FDA More on circadian rhythms
- Nature Of particular interest are a number of articles on the “mental alarm clock,” such as “Timing the End of Nocturnal Sleep” from January, 1999. These are not available for free, however.
- Google Books Limited preview of “Understanding Sleep and Dreams,” by Paula Belcher and William Moorcroft.
Tuesday, January 02, 2007
How to Save Money on Gas
Gas prices keep going up, and our wallets keep getting thinner. This how-to reviews many ways to save money at the local gas station.
Steps
- Don't drive. Don't drive when you don't have to. Carpooling, walking, taking the bus, and riding a bike not only save gas, but also are better for our environment and may be better for your health. Do you really need to drive to the store that is only a couple of blocks down the street?
- Get a credit card. Some credit cards offer gas savings when you use the card for purchases. This works in much the same way that some credit card companies give you frequent flyer miles when you use their card for purchases. But watch for interest rate charges.
- Get a membership card. Some gas stations offer membership benefits. There are also department and grocery stores that give discounts at the fuel pump when you use their store membership cards.
- Give your car a tune up. While giving your car a tune up won't actually save you money at the pump, it will save you gas. Using less gas saves you money. Have the oil changed, and have a certified mechanic give your engine a look over.
- Check the web for deals. Web sites let you find the best deals in your area. Check out the external links below to start.
- Buy a Diesel. Diesel cars can often get better mileage than comparable hybrids and do not have batteries that need replacing. Getting a Diesel car also allows for use of Biodiesel fuel.
- Buy a hybrid car. Not only do hybrid cars give you immediate savings at the pump, the U.S. government and your local state offer tax breaks for people who use gas-saving cars. Federal deductions for using gas-saving cars can be as high as $2,000.00, but check before buying to see if they're still in effect. If you can't afford the growing number of hybrid cars out there, consider getting a regular car with good MPG (miles per gallon), like the Honda Fit. In general, the smaller the car, the better the mileage.
- Use the lowest recommended octane for your car. The lower octane gas is cheaper. Most modern cars are engineered to run efficiently on lower octane fuel. Check your owner's manual to be sure, as not all car engines should use lowest octane gas.
- Mix octanes. Using a higher octane has no effect on fuel efficiency and doesn't really gain you anything and costs more. In some areas, the lower octane may be too low for your car and the mid-grade or higher octane may be more than what you need. To avoid overpaying and still get the correct octane for your car you can mix the gas. For example, if your car takes 87 octane and the pumps have 85 octane and 89 octane, then when filling your car, fill half the tank with 85 octane and the other half with 89 octane and this will give you an equivalent of 87 octane plus it will save you money because the lower octane gas costs less. However, if you do not have a way of thoroughly mixing the fuel as it is entering your tank, your engine may receive "bursts" of lower octane fuel, causing problems.
- Avoid idling. While idling, your car gets exactly 0 miles per gallon. Although it is said that starting the car uses a lot of gas, it is still very little compared to idling for more than a few seconds. Idling to warm up is particularly bad, as the engine needs extra fuel to warm up. After start up, allow your car to idle 15-30 seconds, then drive conservatively until it reaches normal operating temperature. Park your car and go into the restaurant rather than idling in the drive-through. Idling with the air conditioning on also uses extra fuel. Warning: stopping and starting the engine frequently will cause extra wear. Don't stop the engine if you are going to idle for less than a minute. Note: diesel engines use much less fuel to idle than gasoline engines.
- Combine trips. If you can do several short trips in one longer trip, you will save fuel and time. Make lists to avoid having to go back. Call ahead to avoid wasted trips.
- Plan your trips in advance. This can prevent wasting fuel and wasting time. Plan to use alternative routes. Often back roads can prevent you from stopping at traffic lights and more importantly sitting in traffic jams.
- Buy a GPS system. Global Positioning Systems help you navigate to find the fastest and shortest distance to your destination. A good GPS can save you time and fuel. Also the cost of GPS systems has really come down and you can get a good GPS system for around $350. Also, there are some creative ways you can use GPS systems to save money on gas. For example, you could use a GPS to calculate how far away you are from the next state and if you know fuel tax is less in the next state, just put enough fuel in to get you to the next state and fill up with gas where it is cheaper.
- Check the tire air pressures weekly. Buy an inexpensive manual air pump and an accurate tire gauge (not a pencil gauge as they are not accurate). Keep all tires inflated to the pressure as recommended for your car. Go by the sticker on the door frame or fuel filler flap and not the tire wall. Don't be afraid to experiment with higher tire pressure, as long as you don't exceed the rating marked on the tire. Generally speaking, a slightly higher pressure will improve fuel mileage.
- Drive at a consistent speed Avoid accelerating fast or braking suddenly. Use cruise control when you can.
- Slow down. Air resistance goes up as the square of velocity. The power consumed to overcome that air resistance goes up as the cube of the velocity. Rolling resistance is the dominant force below about 40 mph. Above that, every mph costs you mileage. Go as slow as traffic and your schedule will allow. Drive under 60-65 since air grows exponentially denser, in the aerodynamic sense, the faster we drive. To be precise, the most efficient speed is your car's minimum speed in it's highest gear, since this provides the best "speed per RPM" ratio.
- Clean out any unnecessary items in your car. If you have heavy objects in your car that you don't need, remove them. If your car is lighter, it will use less fuel to get where you're going.
- Remove unneeded racks. If you have a bicycle or ski rack, remove it when you're not using it. It causes drag and lowers mileage.
- Don't fill until the last quarter tank. If you do this, it can extend your gas because you are hauling a lighter load as the tank nears empty. This also allows you to buy gas on low-cost days. However, in cold weather, you may not want to do this. Also, running a car with less than a quarter tank of fuel can shorten the fuel pump life, and letting your tank empty completely can cause fuel pump and filter problems. And you never know when you might be in an emergency and need some gasoline in your car!
- Fill the tank full. If you need to fill up, fill up all the way. The more money you try to save by adding $10 today and then $20 tomorrow will be wasted since each time you will have to travel to the station and wait for a pump. Instead, do it all at once and $ave time and money.
- Avoid buying gas with ethanol, if possible. The lower energy content of the fuel will almost always lower mileage. Other additives may do the same, or may increase mileage depending upon your vehicle. Experiment to find out. Also the minimal price difference is often offset by a lower price due to lower fuel taxes or subsidies. Consider using ethanol because it is a lot better for the environment. Note, however, that turbocharged cars often get better mileage with ethanol blends. This is because the higher (over 100!) octane of ethanol permits more boost, which means more efficient fuel usage.
- Avoid having to stop. If approaching a red light, see if you can slow down enough to avoid having to actually stop (because you reach the light after it is green). Speeding up from 5 or 10 miles per hour will be easier on the gas than starting from full stop.
- Anticipate the stop signs and lights. Look far ahead; get to know your usual routes. You can let up on the gas earlier. Coasting to a stop will save the gasoline you would otherwise use maintaining your speed longer. If it just gets you to the end of a line of cars at a red light or a stop sign a few seconds later, it won't add any time to your trip. Ditto for coasting to lose speed before a highway off-ramp: if it means you catch up with that truck halfway around the curve instead of at the beginning, you haven't lost any time. (Do not coast to slow down until you're in the exit deceleration lane, unless you have checked your mirror to make sure you won't interfere with non-exiting traffic in the right-hand travel lane.)
- Take off slowly from a full stop. This is one adjustment that will have dramatic effects on your gas mileage; don't tear off from a stoplight! If you move out slowly, it will help save you money at the pump. Also, if you are driving a stick shift, note that 50% throttle at 1200 rpm's uses less gas than 10% throttle at 2500 rpm's. As long as the engine is not lugging or pinging, shift as soon as possible and use plenty of throttle. The engine is more efficient when it does not have to pump air past a closed throttle plate. Warning: this advice is only true for fuel-injected cars or those with constant velocity carburetors.
- Park in the first spot you find. If you wander all over the parking lot looking for that really close parking space, you'll use more gas. Don't be afraid to walk a ways if it comes to that - the walk will do you good!
- Use A/C only while slowing. This is sometimes enough to keep your vehicle at a reasonable temperature without using fuel and going easier on the brakes. You can also use the A/C to cool the car and then switch to the fan only. (Turning on the A/C at low rpm's may save the compressor from a "jolt" and additional wear.)
- Shift into neutral if you are not comfortable with downshifting. Standard transmission vehicles may save gas by shifting into neutral when going down hills steep enough to maintain speed (although engine braking is safer on steeper declines). Do not do this in a Hybrid car, they use this "regenerative engine braking" to generate electricity and charge the batteries. NOTE: This strategy will result in more wear and tear on your brakes. Neither of these strategies is recommended for normal automatic cars. Also, if you own a car with fuel injection, it is more efficient to keep the car in a high gear while going down hills. Simply take your foot off the gas.
- Park in the shade. Gasoline actually evaporates right out of your tank, and it does so faster when you park directly in the sun - winter or summer. Parking in the shade also keeps it cooler inside, and you will need less A/C to cool off when you get back in. If there is no shade available, park so that your gas tank (the actual tank under the car, not the valve to fill it) is facing away from the direct sun.
- Drive a small motorcycle or scooter instead of a car. They are cheaper and often get 70 MPG or better. Riding gear is available for most weather conditions. A good example is the Kawasaki EX250, which costs about $3,000, gets 60-70 MPG at highway speeds, and can go 0-60 MPH in under 6 seconds!
- Use a synthetic oil instead of 10W30 and 10W40. This will cause your engine to run better and giving you better mileage..
Tips
- Gas prices are statistically the cheapest on Wednesdays, but this is only statistically true over a large number of days. It won't be true every week.
- Getting a fill-up three days before a holiday will help you save on the price bump.
- At every oil change, check your air filter. Clogged air filters cause engines to work overtime which requires more fuel. Reusable air filters are not recommended, as they can destroy expensive Mass Airflow Sensors if they are over-oiled. A quality paper filter does a better job of filtering.
- Use a fuel injector cleaner or complete fuel system treatment occasionally. Not only will you see a boost in gas mileage, but in your car's overall performance. Fouled injectors vaporize fuel poorly, affecting how completely the fuel is burned.
- Most car modifications do not improve mileage. Extra wings add drag. Power improvements often hurt mileage. However, if your car is turbocharged, chiptuning may result in a mileage boost. The mileage boost will be canceled out if you drive more aggressively due to power improvements.
- So-called gas saving devices don't work. Use these wikiHow tips and save yourself the cost of the snake oil.
- Many of these tips change slightly if your engine is turbocharged or diesel. For instance, diesel engines use almost no fuel while idling. Diesel trucks will often be left idling all night to provide heat or power for the trucker inside the cab, at the cost of relatively little fuel.
- Wholesale unleaded is now a traded commodity. Watch the futures price as it will forecast price at the pump, which will be about equal to the wholesale price plus taxes plus about a nickel per gallon for the station.
Warnings
- Keep in mind that low octane gas is usually slightly worse for the environment.
- Check your vehicle's Owners Manual for minimum fuel octane ratings. Some engines are designed to use higher octane fuels. Using a lower octane fuel (over extended periods of time) in these engines may result in premature engine failures.
- Nearly all gas-saving devices do not work, and some even decrease fuel mileage. Intake twisters, gas pills and fuel line magnets do not help mileage. Even if the mileage improvement claims were true, they often cost enough to negate any potential savings.
- Be very careful when shifting into neutral when going down hills. While you are likely not to need to accelerate, you can never know that types of accidents/problems other cars will create that will necessitate an immediate increase in speed.
- Getting into the habit of downshifting to slow the car instead of using the brakes will cause early wear of your clutch. It is generally known among auto mechanics that it is better to wear out your brakes than to wear out your clutch. Brake pads can be replaced for much less money than a clutch, which often requires removing the entire engine, transmission, or both.
Related wikiHows
External Links
- FuelEconomyTips.com
- MPGResearch.com
- e85 Information
- Consumer Utility Services How to save money on gas bills
- Gasbuddy.com Find the best deals in your area. Uses user-submitted data.
- AAA Triple A offers tips for saving gas. (PDF - requires Acrobat Reader.)
- Hybrid Car Advisor Resources, articles and links to assist consumers interested in the hybrid car option.
- Ridester.com A road trip marketplace where you can get free gas by offering rides to feedback-rated riders traveling your way.