Tuesday, September 19, 2006

เราเริ่มที่จุดจบ (ชอบอ่ะ อยากมีชีวิตงี้)

>>>สวัสดีครับ ผมชื่อแจ็คครับ ผมแต่งงานได้ 3 เดือนแล้วครับ แต่คุณเชื่อม่ะ
>>>แต่งเหมือนไม่ได้แต่งเลย ผม
>>>ยังคงมีชีวิตเหมือนเดิมเกือบทุกอย่าง ต้องย้ำว่าเกือบ
>>>เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องชีวิตส่วนตัว
>>>ผมยังคงเที่ยวกับเพื่อนคืนวันศุกร์ เมาสุดๆคืนวันเสาร์
>>>และถอนให้ออกคืนวันอาทิตย์ ไงล่ะครับ อิจฉาผม
>>>ไหม ที่มีอิสระได้อย่างนี้
>>>
>>>
>>> ภรรยาของผม เรียกแบบนี้ก็ไม่เชิงนะ
>>>เรียกว่าคนที่ผมเข้าพิธีแต่งงานด้วย ไม่ใช่ว่าเธอไม่
>>>สวยนะครับ เธอก็สวยเหมือนผู้หญิงทั่วไป...
>>>ผมว่าเธอก็น่ารักแบบไม่เหมือนใครดีนะ
>>>แต่เพื่อนมันบอก
>>>“กรูเห็นหน้าแล้วเจี๊ยะบ่โละว่ะ” (เห็นแล้วกระเดือกไม่ลง)
>>>เธอไม่ใช่คนสวยแบบนางงาม ที่หุ่นสวย
>>>หน้าใส ท่าทางสง่า พูดจาไพเราะ มารยาทอ่อนหวาน เป็นแม่บ้านแม่เรือน ....
>>>ทุกอย่างที่ผมพูดมานั่น
>>>ตรงข้ามหมดเลยครับ
>>>
>>>
>>> เธอชื่อ นักกี้ครับ เธอบอกให้ผมเรียกสั้นๆว่า กี้
>>>และเธอจะเรียกผมว่า
>>>จัก เพราะชื่อฝรั่ง
>>>ไป ไม่เหมาะกับหน้าไทยแบบผม ดูปากเธอสิ
>>>กัดกันตั้งแต่วินาทีแรกที่เจอและนี่คงเป็นเสน่ห์ของเธอ
>>>อย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผมตกลงแต่งงานกับเธอทันทีหลังจากวันดูตัว
>>>
>>>ทั้งที่ในวันนั้น......
>>>
>>>“โธ่ลุง อย่ามาแต่งกะหนูเล้ย ลุงดูนะ หน้าตาก็ไม่สวย แค่น่ารักปานกลาง
>>>หุ่นก็ไม่บองบาง ติดจะล่ำซำ
>>>ไขมัน นี่ๆเห็นอะไรไหมฟันเกตรงมุมปากเนี่ย เขี้ยวซ้อนแหลมๆเนี่ย
>>>ผู้หญิงฟันซ้อนกัน โหหหห ไม่น่ายุ่ง
>>>หรอก หนูทำกับข้าวก็ไม่เป็น ไม้กวาดไม่เคยจับ ไม้ถูพื้นไม่คิดแตะ
>>>ซักผ้าก็ส่งร้าน
>>>
>>> เอางี้ หนูลุงให้ 20 คนเลย เนี่ยะ รายชื่อพร้อมเบอร์โทร กะที่อยู่
>>>ลุงเลือกเลยจะเอาคน
>>>ไหน เดี๋ยวติดต่อให้ ขอบอกโสดๆ สวยๆ ทั้งนั้น เพื่อนหนูเอง คุยกันได้
>>>นี่ๆๆ
>>>เอาไปเลย”
>>>
>>>ผมมองเธอยิ้มๆ และคงเผลอมองนานไปหน่อย
>>>
>>>
>>> “อ่าวลุง ไม่ขำนะ น้อยไปเหรอ อืมมม ขอคิดแป๊ปนะ เอางี้ ให้อีก 20
>>>เลย
>>>แต่คราวนี้เป็นรุ่น
>>>น้องนะ ตอนนี้อยู่ปี 2 กะ 3 รับรองโสด สด สวย แต่ไม่รู้จะซิงรึเปล่า
>>>่ขอเวลาวันนึงหาที่อยู่กะเบอร์ให้
>>>”
>>>
>>>
>>> ครับ เธอพยายามติดสินบน ไม่ให้ผมแต่งงานกับเธอ ด้วยรายชื่อ
>>>ที่อยู่พร้อมเบอร์โทร.สาว ก๊า
>>>กกๆ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นโว้ย นี่ถ้าผมบ้าจี้รับข้อเสนอนี้ไป
>>>ไม่กลายเป็นพวกค้าหญิงส่งออกรึ จะบ้าตาย
>>>แม่สื่อเขาคิดอะไรของเค้านะถึงมาจับคู่ผมกับเธอ
>>>
>>>
>>>หลังจากปล่อยให้เธอพล่ามข้อเสนอ สินบนไปจนเหนื่อยเอง
>>>โดยมีผมนั่งยิ้มมองเธออย่างเดียว ยังไม่พูด
>>>สักคำ ดูไปแล้วท่าทางเหมือนคนขายประกันจริงๆ
>>>
>>> พอพูดจนเหนื่อย เธอก็ยกกาแฟเย็นดูดรวดเดียวหมดแก้ว
>>>เอาหลังมือเช็ดปากแบบลวกๆ ติดจะ
>>>เรอหน่อยๆนะ ถ้าได้ยินไม่ผิด
>>>
>>>
>>> “ตกลกไม่แต่งกะหนูนะ จะได้บอกมัมกะแด้ดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว
>>>ส่วนเรื่องรายชื่อเอาไปหมด
>>>เลยละกัน ทั้ง 40 เนี่ยแหละ แล้วถ้าสนคนไหน โทรบอกหนูที่เบอร์นี้นะ
>>>ฮี่ๆ “
>>>เธอหยิบปากกาเขียน
>>>หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ลงกระดาษโน้ต
>>>
>>>“อ่ะ โทรได้ตั้งแต่ สิบโมงเช้า ถึง สี่ทุ่ม”
>>>
>>>มีเวลาเปิดปิดด้วยแฮะ
>>>
>>>“ไปนะค๊า หวัดดีค่า หวังว่าคงไม่เจอกันอีก ทั้งชาตินี้ หรือชาติไหน
>>>แล้วนี่ค่ากาแฟของหนู อีก 5 บาท
>>>ไม่ต้องทอน ติ๊บให้”
>>>
>>>
>>> ครับ สินบนสำหรับการไม่แต่งกับเธอคือ รายชื่อพร้อมที่อยู่ เบอร์
>>>กับเงินอีก 5 บาท อืม คุณคิดว่า
>>>ผมควรรับข้อเสนอหล่อนไหมเนี่ยยยย
>>>
>>>
>>>วันต่อมา ไม่รู้ผมคิดยังไงถึงกดเบอร์โทรเธอ อารายยย
>>>ก็เบอร์มันติดมากับโทรศัพท์เท่านั้นเอง คิดมากๆ
>>>
>>>“สวัสดีครับ นักกี้”
>>>
>>>“อืมมมมมมมม”
>>>
>>> ขณะนั้นผมจำได้ว่าเป็นเวลาเกือบบ่ายสองโมง
>>> แต่เสียงเธอดูเหมือนสะลึมสะลือ
>>>
>>>“ว่างไหมครับ คุยกันหน่อยสิ”
>>>
>>>“ไม่ว่าง คนจะนอน ไว้โทรมาใหม่นะ ฝากเบอร์กะชื่อไว้
>>>โทรกลับไม่โทรอีกเรื่อง
>>>แค่นี้นะ”
>>>
>>> เฮ้ย นี่มันบ่ายสองนะขอรับ ว่าที่เจ้าสาวของผม เธอยังไม่ตื่นนอน
>>>ว่าจะบอกข่าวดีซะหน่อย ว่า
>>>....
>>>
>>>
>>> ........ ที่บ้านฝ่ายหญิง......
>>>“ไชโย้ๆๆๆๆๆๆๆ คุณพี่ขา ในที่สุด ในที่สุด”
>>>
>>>“ใช่ คุณน้องครับ ในที่สุด ในที่สุด”
>>>
>>>“ยายหนูก็ขายออก ไชโย้ๆๆๆๆๆๆๆ”
>>> เสียงพ่อกับแม่ฝ่ายหญิงพูด น่าจะเป็นตะโกนขึ้นพร้อมกัน
>>>
>>>“คุณนายขา เป็นอะไรไปคะ” เสียงสาวใช้รีบวิ่งออกมา
>>>
>>>“นี่ จุ๋ม แจ๋ว แหวว เธอรู้ไหม ยายหนูจะได้แต่งงานแล้วนะ
>>>ที่ไปดูตัววันก่อนน่ะ
>>>ฝ่ายชายเขาตกลงแหละ
>>>นี่ๆ เธอต้องแนะนำชั้นนะ ว่าพระวัดไหนดูฤกษ์เก่ง จะได้ไปผูกดวงกัน อะฮู้ยยย
>>>ตื่นเต้นๆ”
>>>
>>> สาวใช้ทั้งสามคนมองตากันด้วยความยินดีไม่แพ้คุณนาย ในที่สุด
>>>คุณหนูบ้านเราก็ขายออก เย้ๆ
>>>
>>>
>>> ครับ ว่าที่เจ้าสาวของผมเป็นลูกสาวคนเดียว ทางบ้านของเธอกับผม
>>>รู้จักเป็นคู่ค้าทางธุรกิจและ
>>>เพื่อนกันสมัยรุ่นพ่อและแม่
>>>
>>> ก่อนที่ผมจะรู้ว่ามีการดูตัว พ่อบอกให้ผมไปพบลูกค้า
>>>แต่พอเธอเดินมาหย่อนก้นลงยังไม่ทันร้อน
>>>ก็ร่ายมาขนาดนี้ ผมรู้ว่าผมโดนเข้าแล้ว ทั้งที่พยายามบอกปฏิเสธเท่าไหร่
>>>ก็ผมมันสามสิบแล้วนี่ครับ แต่
>>>ขอบอกยังโสดและหน้าตาดีด้วยนะเออ
>>>
>>>
>>> เรื่องตลกที่สุดคือ วันหมั้น
>>>
>>> ก็วันหลังจากที่เธออะละวาดบ้านพัง หนีออกจากบ้านไปได้เกือบวัน
>>>เพราะมีเงินติดตัว 50 บาท
>>>และนอน และนอน รวมทั้งหมดเป็นเวลา 2 วัน
>>>
>>> ทางบ้านของผมและเธอช่วยกันหาฤกษ์ที่ดีและสะดวก เพราะ1.
>>>หมอดูบอกว่า
>>>ถ้าผมและเธอ
>>>ไม่แต่งงานปีนี้ จะไม่ได้แต่งอีกเลยตลอดชีวิต 2. แม่อยากอุ้มหลาน 3.
>>>แม่อยากได้ลูกสะใภ้ 4. แม่
>>>อยากให้ผมแต่งงาน 5. ญาติๆอยากให้ผมเลิกทำตัวเจ้าชู้ไก่แจ้
>>>จีบดะไม่เว้นลูกพี่ลูกน้อง แล้วหักอกแบบ
>>>ไม่ไว้หน้า สรุป มีแต่คนรอบข้างอยากให้ทำ แต่ผมไม่ใช่พวกตามใจแม่หรอกนะ
>>>ตอนนั้นผมแค่นึกสนุกอยาก
>>>แกล้งเธอเท่านั้น
>>>
>>>
>>>“มัมขา ไม่แต่งไม่ได้เหยอ หนูยังเด็กอยู่เลยนะค๊า เรียนก็ยังไม่จบ”
>>>เธออิดออด
>>>
>>>“ก็ยังไม่แต่งนี่คะ แค่หมั้น” คุณแม่พูดขึ้น
>>>
>>>“งั้นแสดงว่าไม่แต่งก็ได้ หมั้นได้ก็ถอนได้ ใช่ไหมคะ”
>>>เธอพูดดวงตาเป็นประกาย
>>>
>>>“ไม่ได้ค่ะ ถ้าหนูไม่แต่ง บ้านเรา ฮือ บ้านเราต้อง ฮือ
>>>ต้องล้มละลายนะคะ”
>>>รู้สึกมัมจะตีบทแตกไป
>>>หน่อย มัมรีบเช็ดน้ำตา เพราะพี่แจ๋วเข้ามาเรียกแล้ว
>>>
>>>“คุณนายขา ข้างล่างพร้อมแล้วค่ะ”
>>>
>>> "ไม่ต้องกลัวยายหนู ไปขึ้นเขียง เอ๊ย ลงไปข้างล่างกันลูก"
>>>
>>>
>>>วันนั้นผมจำได้ว่าตาไม่ได้ฝาด
>>>แต่เหมือนได้เห็นผู้หญิงอีกคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นมาก่อน
>>>เธอดูสง่างาม
>>>สวยในชุดไทยสีครีม คุณแม่เธอจูงมือลงบันไดมา และส่งมือเธอให้ผม พาเธอไปนั่ง
>>>ตรงพิธี
>>>
>>>คำแรกที่เธอทักทายผมคือ
>>>
>>>“มองไรลุง ไม่เคยเห็นนางเอกลิเกรึไง”
>>>
>>>แค่นั้นล่ะครับ ทำผมหัวเราะพรืดออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่ อาการสำรวมหายหม้ด
>>>คนอุตส่าห์เก็ก...
>>>
>>>หลังจากผู้ใหญ่ทำพิธีกันเสร็จแล้ว ถึงเวลาที่ผมต้องสวมแหวนหมั้นให้เธอ
>>>แหวนเพชรน้ำงามถูกเลื่อนลงไป
>>>อยู่ในนิ้วนางข้างขวาของเธอ แต่...ก่อนที่มันจะถูกสวมนั้นสิ
>>>
>>>“ลุง เปลี่ยนวงได้ม่ะ กลัวทำหายอ่ะ นะลุงนะ หายมาแล้วยุ่งนา”
>>>เธอกระซิบกับผมเบา
>>>
>>>ผมอมยิ้ม กับท่าทางของเธอ แล้วจับมือเธอมาสวมอย่างสบาย
>>>ท่ามกลางการดึงมือกลับเป็นระยะ
>>>เสร็จแล้ว ก็ถ่ายรูปกัน ซึ่ง
>>>
>>>“เดี๋ยวๆ ช่างถาพ ไม่เอารูปปึกๆนะ เอ้า ทุกคนคะ ไม่ต้องยืดตัวตรง
>>>นั่งเกร็งค่ะ
>>>เอาแบบสบายๆ รูป
>>>จะได้ออกมาสวยๆ นี่ วัดแสงรึยัง ใช้ได้ล่ะนะ”
>>>
>>>แล้วก็รีบวิ่งกลับมานั่ง ฉีกยิ้มแก้มป่อง ดูเค้าทำสิ
>>>ผมเพิ่งมารู้หลังแต่งงานเดือนแรกว่า เธอเป็นนักถ่าย
>>>รูปสมัครเล่น มิน่า...
>>>
>>>
>>> ระหว่างงานฉลองเธอเดินมาถามผมว่าจะหมั้นกันสัก 3 ปีได้ไหม
>>>ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย และถามว่า
>>>ทำไม
>>>
>>>เธอบอกว่า ปีแรกรับปริญญา ปีที่สองขอเวลาค้นหาตัวเอง
>>>ปีที่สามชีวิตคงเข้าร่องเข้ารอยขึ้น
>>>
>>>ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเหตุผลของเธอ แล้วชู สามนิ้ว เธอยิ้มแก้มป่อง
>>>แทบจะกระโดดกอดผมทีเดียว
>>>ก่อนที่จะพูดว่า “สามเดือน” นั่นล่ะครับ แม่คุณโวยทันที
>>>
>>>
>>> “จะบ้าเหรอ สามเดือน ใครมันจะทำอะไรทัน นี่ลุงจะรีบไปไหน ห๊า
>>>อยากแต่งงานขนาดนี้ทำไม
>>>ไม่แต่งไปซะนานแล้ว อายุก็ปูนนี้ อยู่บนคานทำไมนานนัก ห๊า!!!
>>>ก็บอกว่ายังเรียนไม่จบ เข้าใจไหม”
>>>
>>>
>>> “ก็เดือนหน้าจะรับปริญญาไม่ใช่เหรอครับ นักกี้”
>>>
>>>เธอทำเสียง จิปาก
>>>
>>>“ก็ตอนนี้มันยังเรียนไม่จบ นี่เข้าข่ายพรากผู้เยาว์นะบอกให้”
>>>
>>>ฮ่าๆ ผู้เยาว์สิ อายุ 21 น่ะ ผู้เยาว์ หรือ ผู้สาวคร้าบบบบบ
>>>ขำกับมุขแกน
>>>ที่ไหลไปได้
>>>
>>>“แล้วที่ผมยังไม่แต่ง ก็คงเพราะรอมาเจอนักกี้มั้งครับ เจอปุ๊ป ถูกใจ
>>>แต่งปั๊ปไงครับ”
>>>
>>>“เฮ่อ ตาแก่โรคจิต หัวงู เอาเปรียบผู้หญิง บังคับขืนใจ
>>>กระทำชำเราหน้าด้านๆ......”
>>>
>>> อูยๆ มาเป็นชุด นี่ดีนะ ยืนคุยกันที่สวน
>>>ไม่ค่อยมีคนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ก็คำพูดแต่ละคำที่
>>>เธอใช้สิ อย่างกับผมไปทำอะไรร้ายแรงงั้นล่ะ ฝ่ายเธอเหรอ
>>>ทำหน้าหักไปตลอดงานเชียว
>>>
>>>จากนั้นผมชวนเธอเข้าบ้านกัน เพราะแดดเริ่มร้อนแล้ว
>>>และคงเหมือนโรคติดต่อที่เธอเห็นผมหัวเราะ
>>>เลยหัวเราะบ้าง
>>>
>>> “ขำไรนักหนา คนแก่เส้นตื้น”
>>>
>>>ฮ่าๆ นั่น ยัยเด็กเส้นตื้นกว่า หัวเราะตาม
>>>
>>>
>>> หลังจากวันหมั้นยังไม่ถึงสัปดาห์ เหตุการณ์เป็นตามที่ผมคาดไว้
>>>นักกี้ใช้ชีวิตโสดจนคุ้มจริงๆ ครับ
>>>เธอนอน และนอน และนอน โทรไปทีไร นอนทุ้กที
>>>แต่เพิ่งมารู้จากว่าที่แม่ว่า
>>>ไอ้ที่นอนน่ะ นอนนอกบ้าน
>>>นะ
>>>
>>>
>>>“พ่อแจ็คช่วยแม่ด้วยเถอะ ยายหนูไปเชียงรายมาสามวันแล้วยังไม่กลับเลย
>>>แม่เป็นห่วง”
>>>
>>>แม่เธอพูดเสียงเศร้าๆ ตีบทแตกตามเคย
>>>
>>>“ตามไปดูน้องให้แม่หน่อยนะลูก”
>>>
>>>
>>>ไอ้กระผมก็จำใจต้องตามไปดูแลคู่หมั้น...ด้วยความเต็มใจ เยี่ยม!!
>>>ได้โอกาสโดดงาน หนีเที่ยว
>>>หลังจากสั่งงานเลขา และเคลียร์งานแล้ว คืนนั้นผมโทรหาเธอ ถามว่าอยู่ไหน
>>>และไปนั่งเครื่องหาถึงที่
>>>พอไปถึง แม่คนนั้นอึ้งครับ ตกใจเหมือนเห็นผีกระหัง
>>>
>>>“เฮ่ย ลุง มาทำไม เที่ยวเหรอ”
>>>
>>>“มาตามเรากลับบ้านเราไง”
>>>
>>>“ไม่!!! ยังไม่ถึงเวลา นี่กี้จองตั๋วไปเมืองกาญฯต่อแล้ว จะไปหลงป่า
>>>บอกมัมกะแด้ดด้วย ยังไงก็ไม่กลับ
>>>”
>>>
>>>“น่าสนใจ ไปด้วยสิ”
>>>
>>>เธอมองหน้าผมแบบสยองๆ ท่าทางเห็นตัวประหลาด แล้วส่ายหน้า หยิกแก้ม
>>>แคะขี้หูเหมือนไม่เชื่อหูตัว
>>>เอง
>>>
>>>“ได้ยินไม่ผิดหรอก ไปด้วย”
>>>
>>>“โฮ่ เพิงเคยเห็นคนแก่กระสันอยากเที่ยว เป็นบุญตาจริงจริ๊ง”
>>>
>>>
>>> ผมขยี้หัวเธอด้วยความหมั่นไส้ ปากดีนักนะ เดี๋ยวก็เจอดีหรอก….
>>>อารายๆๆๆ
>>>เค้าเป็นคู่หมั้นกัน
>>>แล้ว อย่ามาแซวกันน่าคนอ่าน….
>>>
>>>
>>>สองสัปดาห์ต่อจากนั้น เราหมายถึงผมกับเธอ เราตะลอนเที่ยวทั่วไทยจริงๆ
>>>ทั้งขึ้นเขา ลงแพ ล่อง
>>>แก่ง ลงทะเล ดำน้ำ นอนฟังเสียงคลื่น
>>>
>>> ก็เพิ่งรู้อีกเหมือนกันว่า เธอเป็นนักเที่ยวตัวยงแต่ติดแนวเก็บกด
>>>เหมือนคนไม่ได้เที่ยวมานาน พอมี
>>>โอกาส เป็นตะลอนจนลืมเหนื่อย และที่ติดตัวเธอตลอดคือ
>>>กล้องถ่ายรูปรุ่นเก่า
>>>ที่เป็นแบบกึ่งauto เจอ
>>>อะไร พี่เป็นถ่ายดะ ดูหน้าเธอตอนได้ถือกล้องแล้ว เหมือนเด็กได้อมยิ้ม
>>>น่ามอง
>>>น่ารักจริงๆ
>>>
>>>“เออ อย่างงั้นแหละจ้า นิ่งๆ ท่านั้นเลย (แชะ) ขอบใจมากนะ ลุง
>>>ยืมตังค์20
>>>จะเอาให้เด็ก ”
>>>
>>>“ของตัวเองอ่ะ”
>>>
>>>“ขี้เกียจล้วงอยู่ในถุง เอาของลุงนั่นล่ะ อย่าหนืดน่า เด๋วกินข้าวเอาให้
>>>เร็วดิ๊ เด็กรอ เห็นไหม”
>>>
>>>คุณครับ นี่เข้าข่ายขู่กรรโชกทรัพย์รึเปล่าครับ ....
>>>และแล้ววันแต่งงานก็มาถึง
>>>
>>>“เฮียจัก ไม่แต่งไม่ได้เหรอ กี้ขอใช้ชีวิตเหมือนคนกะเค้าอีกหน่อยน๊า
>>>น๊าเฮียจักคนดี๊คนดี คนน่าร้าก คน
>>>หล่อที่สู้ดดดเลย”
>>>
>>>เริ่มเปลี่ยนจากลุงเป็นเฮีย และเริ่มแทนตัวเองด้วยชื่อ แหมะ
>>>ผมชอบจังเวลาเธอเรียกชื่อตัวเองเนี่ย
>>>ฟังแล้วไพเราะเสนาะหู
>>>
>>>“คิดมากน่า กี้ ถึงจะแต่งงานแล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิมนี่ครับ
>>>กี้ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมล่ะ”
>>>
>>>“จริงดิ!!!!!!! ไม่ต้องทำกับข้าว กวาดบ้านถูบ้าน ซักผ้า
>>>เปลี่ยนปลอกหมอนผ้าปูที่นอน”
>>>
>>>“บ้านพี่ มีคนทำงานพวกนี้ครับ”
>>>
>>>“เจ๋ง!!!!! งั้นก็นอนกลางวันได้ ออกไปถ่ายรูปได้ ดูหนังได้
>>>ไปค่ายอาสาได้”
>>>
>>>ผมผงกหัว กับกิจกรรมทั้งหลาย
>>>
>>>“แต่ต้องมีพี่ไปด้วย” เธอหน้างิกทันที
>>>
>>>“เรื่องไรปล่อยให้เราไปสนุกคนเดียว”
>>>
>>>ผมพูดยิ้ม แล้วขยี้ผมเธอด้วยความมันเขี้ยว เธอเลยแล่บลิ้น แบร่
>>>
>>>
>>>
>>> วันแต่งงานของเรา
>>> เป็นวันที่เหนื่อยและสนุกที่สุดวันหนึ่งในชีวิตของผม
>>>นิกกี้แปลงร่างอีก
>>>แล้วครับ คราวนี้ยิ่งกว่าวันหมั้นอีก เหมือนไม่ใช่นักกี้ที่ผมรู้จัก
>>>ใครเอายายนักกี้จอมยุ่ง จอมซ่าส์ จอม
>>>ซุ่มซ่าม ยัยเอ๋อของผมไปไหน แล้วผู้หญิงสวย บาดตาบาดใจ
>>>ที่ยืนตรงหน้าผมนี่ใคร
>>>
>>>“คุณแจ็ค ถึงกับตะลึงเลยเหรอค๊า
>>>เจ๊แต่งเองก็ยังทึ่งกับฝีมือตัวเองเลยค๊า
>>>แหมน้องกี้น่าจะแต่งหน้าบ่อยๆ
>>>นะคะเนี่ย”
>>>
>>>ช่างแต่งหน้าเพื่อนเธอทักกับอาการตะลึงของผม และถ้ามองไม่ผิด
>>>ผมเห็นเธออายผมนะ
>>>อิอิ ดูสิ หน้า
>>>แดงแข่งกะแก้มเชียว
>>>
>>>
>>>ช่วงเช้าเราทำพิธีแบบไทย มีการสู่ขอที่บ้านฝ่ายหญิง
>>>และตอนเย็นมีงานเลี้ยงที่โรงแรม เจ้าสาวของผม
>>>วันนี้เธอสวยมากจริงๆครับ ผมไม่เคยเห็นนักกี้ตอนแต่งหน้า
>>>แต่งตัวแบบเจ้าหญิงมาก่อน
>>>
>>>รู้ไหมครับ ประโยคแรกที่เธอทักผมในงานตอนเช้าคืออะไร
>>>
>>>“มองอยู่ได้เฮียจัก ไม่เคยดูละครช่อง 7 ตอนเช้าวันเสาร์รึไง แน่ะ
>>>ยังมองอีก
>>>วุ้ยยย”
>>>
>>>ฮ่าๆ ประโยคเด็ดละลายอาการขรึมของผมได้เช่นเคย
>>>
>>>และประโยคแรกในตอนเย็น ที่เจ้าหญิงชุดขาวทักผมคือ
>>>
>>>“โรคจิต!! ทำยังกะไม่เคยอ่านซินเดอเรล่า”
>>>
>>>คนพูดหน้ามุ้ย แล้วเดินดุ่มๆ ออกไป ถลกกระโปรงยาวเดินเข้างาน
>>>คงจะดีถ้าแม่คุณไม่สะดุดขาเก้าอี้
>>>หรือขาโต๊ะ นั่นๆ ว่ายังทันขาดคำ ล้มโต๊ะไปแล้วหนึ่ง ...
>>>
>>>
>>> ในงานนี้ ทั้งเพื่อนของผมและเธอต่างทำหน้าไม่เชื่อ เมื่อได้รับการ์ด
>>>แม้จะมาอยู่ในงานแล้ว ก็ยัง
>>>ทำหน้าเอ๋อกันไม่หาย ไอ้ที เพื่อนสนิทผม คบกันมาตั้งแต่เรียนมอปลาย
>>>มันยังว่า
>>>
>>>“ไอ้แจ็ค เอาจริงเหรอวะ ข้าว่า รายนี้มันไม่ใช่สเปคเอ็งนา”
>>>
>>>“นั่นสิ พี่แจ็คขา ถ้าถูกพ่อแม่บังคับ หรือขู่จะยึดเงิน
>>>บอกแนนนี่ได้นะคะ
>>>แนนนี่ให้ยืมก่อนก็ได้”
>>>
>>>“แจ็ค นี่คุณเสียสติรึเปล่า คิดไงเอาเด็กกะโปโลแบบนี้มาเป็นเมีย ต้องสวย
>>>เริ่ด
>>>ไฮโซ แบบชั้นสิ คุณ
>>>ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
>>>
>>>และอีกสารพัดประโยคที่ผมเจอในงาน ต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ ว่า
>>>ผมไม่ได้ถูกพ่อแม่บังคับนะ แต่ง
>>>งานกับนิกกี้ด้วยความเต็มใจ ตอนแรกก็เพราะแค่อยากแกล้งเธอเท่านั้น
>>>และว่าจะถอนหมั้นซะในช่วง
>>>เวลาที่หมั้นกันไว้
>>>
>>>แต่เมื่อได้รู้จักเธอแล้ว ผมกลับเป็นฝ่ายถอนตัวจากเธอไม่ได้
>>>
>>>ผมไม่ได้รักเธอหรอกนะ เราคบกันเหมือนพี่น้อง เหมือนเพื่อนน่ะ
>>>
>>>ไอ้ที น้องแนนนี่ และ แพทตี้ยังทำหน้าไม่เชื่อ กับสิ่งที่ได้ยินนัก
>>>สักพักที่ผมรู้สึกว่า ที่ตรงข้างกายจะว่าง
>>>นานไปแล้ว จึงขอตัวไปตามหาเจ้าสาว
>>>
>>>“ดูมันเห่อเมีย วู้ๆ ไอ้ปลาไหลโดนใบข่อยดักโว้ย วู้วววว”
>>>ไอ้ทีแซวตามหลัง
>>>ผมไม่สนใจกับคำพูดของ
>>>เพื่อน เป้าหมายของผมอยู่นั่นไง
>>>
>>>
>>>อ้อ เธออยู่ที่โต๊ะเพื่อนเธอ โต๊ะที่เสียงดังที่สุดในงาน
>>>เมื่อผมเดินเข้าไปจึงได้ยินเสียง โฮ่ ฮิ้ว มาแต่ไกล
>>>ทั้งโต๊ะมีสมาชิกทั้งหญิงและชาย และสาวๆในโต๊ะนั้น
>>>สวย สวยมากๆ ขอย้ำ สวยมากๆ
>>>
>>> นี่ผมคิดผิดใช่ไหมที่ไม่รับข้อเสนอของนักกี้ในวันแรก...
>>>
>>>
>>>“เฮียจัก มาพอดี นี่ ขอแนะนำเพื่อน และน้องให้รู้จัก เริ่มจากทางขวาคือ
>>>แอน
>>>อุ๋ม อ้อน อุ้ม ไก่ โชค
>>>แวว แมน แล้วทุกคน นี่เฮียจัก”
>>>
>>>“ดีคร้าบบบบ ดีค่ะ”
>>>
>>>ทุกคนยกมือไหว้ผมทันที จะไหว้ทำไมฟร่ะ ไม่ได้แก่ไรขนาดนั้นสักหน่อย
>>>นักกี้หลิ่วตามองผมแซวๆ ว่า
>>>แก่แล้วนะ ลุงน่ะ ผมทักทายทุกคนสักพักก็พาเจ้าสาวเดินไปโต๊ะอื่น
>>>ระหว่างทาง
>>>เธอหัวเราะและมองผม
>>>อย่างสมน้ำหน้า
>>>
>>>
>>>“เห็นมั้ยล่า กี้เสนอไปแล้วนา เฮียจักไม่รับเอง เสียดายล่ะสิ๊”
>>>
>>>“ก้อ นิดหน่อยนะตามประสาผู้ชาย”
>>>
>>>“ฮ่า สมน้ำหน้า นี่ถ้าตกลงนะ ป่านนี้สบายไปแล้ว ไม่ต้องมาตก
>>>ระกำอะไรกับกี้หร้อก”
>>>
>>> โป๊ก ผมเขกหัวเธอไปทีด้วยความหมั่นไส้ ใครบอกว่าตกระกำ ลำบาก
>>>ผมได้เจอกับสิ่งที่คนอื่นจะ
>>>ไม่ได้ตะหาก
>>>
>>>
>>> และคืนวันส่งตัวนั่นเอง หลังจากที่ผู้ใหญ่ส่งตัวเข้าห้องหอ
>>>ที่เรือนหอ
>>>บ้านที่ปลูกแยกมาจากบ้านผม
>>>ในพื้นที่เดียวกัน ไม่ไกลนัก
>>>
>>>
>>>“แด้ดขา มัมขา อย่าทิ้งกี้ไปนะ อยู่ด้วยกันก่อนอ่ะ”
>>>
>>>หนวดปลาหมึกที่ชื่อนักกี้เกาะพ่อแม่ไว้แน่น
>>>
>>>“ยายหนูไม่ต้องกลัวหรอกลูก อย่างที่แม่สอนไงคะ โอเคนะ นะ” แม่ทำท่าโอเค
>>>
>>>“นั่นสิหนูกี้ พี่เขาไม่ได้จะฆ่าจะแกงหนูหรอกจ๊ะ ครั้งแรกก็แบบนี้ล่ะ
>>>แม่จะได้อุ้มหลานสักที ทำเพื่อแม่นะ
>>>ลูกนะ”
>>>
>>>แม่ผมที่รักลูกสะใภ้มากกว่าลูกตัวเองพยายามปลอบใจ
>>>
>>>“ผมว่า เราเลื่อนวันส่งตัวไปก่อนไม่ดีเหรอคุณน้อง ลูกหน้าซีดๆ
>>>สงสัยจะไม่สบายนะ” พ่อเธอเริ่มออก
>>>อาการ
>>>
>>>“เอ๊ะ คุณนี่ จะมาหวงลูกสาวอะไรนาทีสุดท้าย ไปๆ ออกไปกันเถอะค่ะ คุณพี่
>>>เชิญค่ะ
>>>ให้บ่าวสาวได้พัก
>>>ผ่อนกัน”
>>>
>>>"แด้ด มัม เดี๋ยวอย่าเพิ่งปายยยย อย่าทิ้งหนูไว้น๊าาาาาาาาาาา”
>>>
>>>ปัง!!!! ประตูปิดลง
>>>
>>>เธอหันกลับมามองผมด้วยแววตาหวาดกลัว
>>>
>>>ฮะ ท่าทางเหมือนลูกแมวตัวน้อย แล้วเจ้าลูกหมาจอมซ่าส์ หายไปแล้วครับ
>>>แม่คุณ
>>>ดูแววตาสิ เหมือน
>>>ผมเป็นตัวประหลาดน่ากลัวซะเหลือเกิน
>>>
>>>เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วยื่นเอาผ้าเช็ดตัวให้ผม
>>>
>>>“เฮียจักอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวกี้จะเล่นคอมก่อน”
>>>
>>>“เอางั้นเหรอ ตามใจนะ”
>>>
>>>แล้วผมก็เดินเข้าห้องน้ำไป
>>>อันที่จริงผมก็ไม่ได้หื่นกระหายใคร่ได้เธอนักหรอกครับ
>>>ผมยังไม่อยากได้ชื่อว่า
>>>เป็นพวกข่มขืนภรรยาตัวเอง ไม่ชอบบังคับใคร ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็สมยอม
>>>มือระดับนี้ ไม่อยากทำร้าย
>>>ใคร ถ้าจะเอา คงเอาไปนานแล้ว หุหุหุ
>>>
>>>
>>>และตามที่ผมคิดไว้
>>>
>>>
>>>ทันทีที่ผมก้าวออกจากห้องน้ำปุ๊ป เธอรีบวิ่งสวนเข้าไปปั๊ป
>>>หอบสารพัดเสื้อผ้า
>>>นี่เธอจะซักผ้าตอนกลาง
>>>คืนรึไง
>>>
>>>
>>>เวลาผ่านไป ....นาน นาน นาน และนาน
>>>
>>>
>>>ผมเช็คเมลล์ก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้ว นั่งเล่นก็แล้ว รอแล้วรออีก
>>>เธอก็ยังไม่ออกมา เลยปิดไฟข้างผม
>>>เดินไปบอกเธอหน้าประตูห้องน้ำว่า
>>>
>>>“พี่หลับก่อนนะครับ อย่านอนในนั้นเลย
>>>ออกมานอนด้วยกันบนที่นอนนุ่มๆดีกว่า
>>>ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พี่ไม่ทำ
>>>อะไรเราหรอก”
>>>
>>>...ได้ผล ...
>>>
>>>เธอค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำออกมา ด้วยชุดที่ .... เอ่อะ
>>>ผมว่ามันไม่ใช่ฤดูหนาวนะ
>>>แต่ดูเสื้อผ้าเธอใส่สิ
>>>เหลือรับประทานจริงๆ
>>>
>>>
>>>“ฮ่าๆ กี้หนาวเหรอ ดู ใส่เข้าไปได้ไง กลัวพี่เหรอครับ”
>>>
>>>ลูกแมวน้อยผงกหัวรับ แววตาระแวงผมสุดขีด
>>>
>>>เฮ้อ หลังจากเช็ดเครื่องสำอาง อาบน้ำสระผมแล้ว เธอก็กลับเป็นยัยนักกี้
>>>ลูกแมวน้อยจอมกวน ที่ตอนนี้
>>>ซ่าส์ไม่ออกไปแล้ว
>>>
>>>เธอเดินมายืนชิดขอบเตียง ขณะที่ล้มตัวลงนอนแล้ว
>>>
>>>“เฮียจักต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ทำอะไรกี้”
>>>
>>>“หืม! อืม ได้ พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำอะไรกี้ ถ้ากี้ไม่ทำอะไรพี่”
>>>
>>>“เฮ้ย พูดงี้หมายความว่าไง หาว่ากี้จะหน้ามืดไปข่มขืนเฮียรึไง
>>>พูดงี้มาต่อยกันเลยม่ะ”
>>>
>>>แต่ผมง่วงเกินกว่าจะทะเลาะกับเธอแล้ววันนี้
>>>
>>>“วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ พี่ง่วงแล้ว พรุ่งนี้ค่อยเล่นกันใหม่นะ
>>>นอนล่ะ”
>>>
>>>แล้วผมก็ปิดไฟ นอนหันหลังให้เธอ
>>>เธอรีๆรอๆ สักพักใหญ่ คงดูว่าผมหลับจริงไหม
>>>เมื่อไม่รู้สึกที่นอนข้างๆมันหยุบสักทีผมเลยแกล้งกรน
>>>
>>>
>>>ครับ ผม(แกล้ง)หลับไปสักพักใหญ่ ก็ลุกมาดูว่าเธอนอนตรงไหน
>>>เธอไม่นอนเตียงกับผมครับ เธอนอนบ
>>>นพื้นข้างเตียง เอาหมอนและหมอนข้างไปเรียบร้อย ......ทุ่มทุนสร้างจริงๆ
>>>
>>>
>>>เฮ้อ ยัยลูกแววน้อยจอมซ่าส์เอ๊ย ผมมองเธอด้วยความเอ็นดู อ่ะ
>>>แค่เอ็นดูหรอกนะ
>>>ผมไม่ได้รักเธอ
>>>หรอก แค่สงสารเลยอุ้มเธอขึ้นนอนบนเตียงด้วยกันแค่นั้นเอง
>>>
>>>
>>> เช้าวันใหม่เริ่มขึ้น แสงแดดอ่อนส่องผ่านหน้าต่าง ผมยังคงนอนตะแคง
>>>หันข้างให้คนอีกฝากของ
>>>เตียง
>>>
>>> แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างมาดิ้นขลุกๆ อยู่ที่หลัง
>>>ผมพลิกตัวกลับมาดู นักกี้นั่นเอง
>>>เธอนอนกอดหมอนข้างอมยิ้มเหมือนเด็ก และเอาหัวมาซุกหลังผมเหมือนหาไออุ่น
>>>
>>> ผมขยับตัวหามุมเล็กน้อย และนั่นคงทำให้เธอรู้สึกตัว จึงเริ่มขยับ
>>>เปลี่ยนท่านอน ดูเธอสิ อมยิ้มน่า
>>>รักเชียว และนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะก้มลง
>>>จูบอรุณสวัสดิ์เธอที่หน้าผาก
>>>
>>>
>>>เธออมยิ้มแต่ไม่ยังลืมตา คงไม่รู้ตัวล่ะสิ ฝันถึงอะไรอยู่น๊า
>>>เธอเริ่มดิ้นอีกครั้งเอาหัวซุกกับหน้าอก
>>>ผม เหมือนเจ้าตัวน้อยที่ดิ้นหาไออุ่นจากอกแม่ของมัน ผมกอดเธอไว้หลวม
>>>ลอบมองหน้าเธอตอนหลับ
>>>
>>>เฮ้อ นี่เราไปสัญญาอะไรบ้าๆกับเด็กฟร่ะเนี่ยยยย
>>>
>>>ขันตินายแจ็ค ขันติ คิดได้แค่นั้นผมก็ลุกไปอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำงาน
>>>แต่ก่อนลุก
>>>ผมใช้เวลาทำใจอีกนิด
>>>ก่อนจะปล่อยลูกแมวน้อยออกจากอ้อมแขนก
>>>
>>>
>>>
>>>ครับ ผมแต่งงานมา 3 เดือนแล้วครับ ผมใช้ชีวิตเกือบเหมือนเดิม ยกเว้นแต่
>>>เวลาว่างของผมมักมีภาพ
>>>ใครอีกคนซ้อนทับขึ้นมาให้คิดถึงเสมอ นักกี้และผมเป็นเหมือนคู่แฝด
>>>เวลาผมไปฟิตเนส หรือไปเที่ยว
>>>ไหน เรามักไปด้วยกันเสมอ
>>>
>>>และความรู้สึกของผม ที่มีต่อเธอมันเริ่มเพิ่มขึ้น และรู้สึกคิดถึง...
>>>ผมไม่แน่ใจนักว่าควรใช้คำนี้ไหม แค่รู้
>>>สึกข้างกายมันโล่ง เวลาไม่มีเธออยู่ด้วย ผมมักคิดถึงผมหอมๆ
>>>ที่ชอบแอบมาซุกกับอกผม คิดถึงเจ้าตัว
>>>นุ่มนิ่มที่ได้แอบกอดตอนเช้าก่อนไปทำงาน
>>>คิดถึงรอยยิ้มตอนหลับที่น่ารักจนผมจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว ถ้าวัน
>>>หนึ่งผมผิดสัญญากับเธอเล่าอะไรจะเกิดขึ้นนะ คิดได้แค่นั้นก็....
>>>เห่อๆๆๆๆ
>>>
>>>“ท่านประธานคะ โครงการนี้ท่านเห็นว่าไงบ้างคะ”
>>>
>>>“ท่านคะ ท่าน”
>>>
>>>“หา อะไรนะ เมื่อกี้ผมไม่ค่อยเข้าใจ อธิบายอีกรอบสิ”
>>>
>>>ก็แบบนี้ล่ะครับ เธอทำให้ผมเป็นมาตั้งแต่แต่งงาน
>>>ทั้งที่อาการแบบนี้ไม่ได้เป็นมานานแล้วตั้งแต่ผมโดนหัก
>>>อกและเริ่มสวมวิญญาณเพลย์บอย นักกี้ทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองของผู้หญิงใหม่
>>>
>>>มันน่าแปลกมากสำหรับคนที่เกลียดกลัวการผูกมัด กลัวการผูกพันอย่างผม
>>>ก่อนที่ผมจะเจอเธอ ผมมีสาวๆ
>>>แก้เหงาเสมอ แต่เวลาสามเดือนที่ผ่านมา
>>>ชีวิตเสเพลเริ่มเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย
>>>เพราะรู้ถึงคุณค่าของ
>>>สิ่งที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แต่ผมกลับไม่นักใจเลยที่ต้องสวมมันไว้
>>>ซึ่งตรงกันข้ามกับอีกฝ่าย
>>>
>>>
>>>“เฮียจัก กี้ไม่ใส่ได้ม่ะ กลัวหายอ่ะ อันตรายด้วย เกิดโดนแท็กซี่ปล้นอ่ะ
>>>น่ากลัวนา ใส่ไปเดี๋ยวทองหมอง
>>>เพชรหลุดอ่า เสียดายของแย่ กี้ถอดเก็บไว้นะ นะ”
>>>
>>>“ไม่ได้!!!!”
>>>
>>>ผมตอบออกไปเสียงดังทันที ทำไม แค่ใส่แหวนแต่งงาน กลัวหนุ่มไหนมันจะรู้
>>>ฮึ
>>>ยัยนักกี้
>>>
>>>“กี้แต่งงานแล้วนะ กลัวหนุ่มไหนรู้เหรอ ว่าเราไม่โสดแล้วน่ะ
>>>ทีพี่ยังใส่ได้เลย
>>>พี่สิควรจะรำคาญมัน ไม่
>>>ใช่เรา”
>>>
>>>“เฮ่ออออออออ ตูละเบื่อ ตาแก่ขี้หึงจริงๆ“
>>>
>>>“พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะกี้ เป็นผู้ใหญ่สักทีสิ”
>>>
>>>ผมแกล้งพูดน้ำเสียงจริงจัง กลบอาการเขินเต็มๆ เรื่องอะไรมาว่าเราหึง
>>>เหอะ
>>>อย่างกะตัวเองจะมี
>>>หนุ่มไหนมาสน นอกจากผมงั้นล่ะ เฮอะๆ เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ได้หึง...
>>>
>>>“โอ๋ๆๆๆๆ เฮียจัก อย่างอนสิ เอางี้เดี๋ยววันนี้ไปเล่นเกมตู้กัน
>>>กี้เพิ่งอ่านหนังสือเกมส์มา มีเกมส์ออกใหม่
>>>ท่าทางหนุกมากเลย ไปด้วยกันน๊าาาาา”
>>>
>>>“ไม่ พี่ไม่ใช่เด็กๆ จะให้ไปเล่นเกมตู้น่ะ”
>>>
>>>....
>>>
>>>“เฮียจัก เล่นดีดีดิ ยิงให้ถูกหน่อย ฝีมือแย่ชะมัด เห็นม่ะพากันตายเลย”
>>>“กี้นั่นแหละ ยิงมั่ว มายิงพี่ทำไม เอาใหม่เลย มา มา
>>>คราวนี้ต้องผ่านด่านนี้ให้ได้”
>>>
>>>...
>>>
>>>ผมรู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งครับตอนอยู่กับเธอ
>>>ช่วงเวลาเด็กที่ผมมักไม่มีเหมือนคนทั่วไป ผม
>>>ต้องอ่านหนังสือ มุ่งมั่นกับการเรียน ให้ได้คะแนนดีเยี่ยม
>>>และศึกษางานของที่บ้านไปพร้อมกัน จนทำให้ผม
>>>ก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เมื่ออายุขึ้นเลข 3
>>>ผมก็มีพร้อมทุกอย่าง
>>>
>>>จนผมตัดสินใจจะแต่งงานกับเธอนี่ล่ะ ถึงทำให้ผมรู้ว่า แท้จริงแล้ว
>>>ผมไม่ได้มีอะไรสมบูรณ์แบบเลย สิ่งที่
>>>ชีวิตผมขาดไปคือ ความสุข ความสดใส นั่นเอง
>>>ผมไม่ได้รักเธอหรอกนะเราแค่สนิทกันเหมือนพี่น้อง คบ
>>>กันเหมือนเพื่อนน่ะน
>>>
>>>
>>>คืนวันอาทิตย์ เพื่อนชวนผมออกมาเหล่สาวตามเคย ทั้งที่ผมบอกปัดมันไปแล้ว
>>>อยากอยู่บ้าน นอนดูหนังกะ
>>>นักกี้บนโซฟา หน้าทีวี ผมชอบแอบดูเธอตอนกำลังลุ้นกับหนัง
>>>และบางครั้งก็ร้องไห้ออกมาซะงั้น เธอจะ
>>>มาอาศัยไหล่ผมเป็นผ้าเช็ดหน้าครับ นี่ละที่ชอบบบบบ
>>>
>>>ผมพยายามอ้าง อกปัดไปเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมเชื่อ สุดท้ายมันใช้ไม้เด็ด
>>>หาว่าผมกลัวเมีย ชะ คนอย่าง
>>>นายแจ็ค ไม่มีคำว่า "กลัว" ที่ไหนบอกมา
>>>ผมขึ้นไปบอกนักกี้ในห้องอ่านหนังสือว่าจะออกไปข้างนอก เธอ
>>>ยิ้มให้ โบกมือบ้ายบาย ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว
>>>นี่หนังสือนั่นมีดีอะไรนัก ถึงละสายตามามองกัน
>>>ไม่ได้เนี่ย ห๊ะ
>>>“เฮ้ยแจ็ค ทำไมเมียเอ็งดียังงี้ว่ะ ออกเที่ยวกลางคืนยั่งงี้
>>>เขาไม่ว่าอะไรเอ็งเหรอ”
>>>
>>>ก็ใครมันลากตูออกมาล่ะว้า
>>>
>>>“ไม่หนิ”
>>>
>>>“งั้นเขาก็ไม่แคร์เอ็งเท่าไหร่น่ะสิ ดีว่ะ แฟนข้านะ บอกจะออกเที่ยว
>>>ทำหน้าหงิกยังกะอะไรดี”
>>>
>>>“ไม่รู้เขา คงคิดว่าเรานัดกันประจำมั้ง
>>>เค้าไม่ค่อยยุ่งกะเรื่องอย่างงี้เท่าไหร่ว่ะ”
>>>
>>>“เฮ้ย งั้นเอ็งไปแต่งงานกะเขาทำไมว่ะ ต่างฝ่ายต่างไม่สนกันหยังงี้อ่ะ
>>>ข้าว่าสงสารเด็กมันนา”
>>>
>>>“เด็กไร เรียนจบแล้ว” ผมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
>>>
>>>“เอ่อนั่นแหละ ถ้าเทียบกับเรา เขาก็ยังเด็ก
>>>เอ็งคิดมั่งเปล่าว่าไปตัดอนาคตเด็กมัน เขาอาจอยากไป
>>>เรียนต่อก็ได้นะเว้ย” ไอ้ทีเริ่มกรึ่ม จึงพูดออกมาตรงๆ
>>>
>>>“ข้าว่าไม่นะ เห็นอยู่เฉยๆไปวันๆ คงไม่คิดอะไรหรอกมั้ง”
>>>
>>>ผมทำเป็นไม่สนใจคำพูดของเพื่อน ทั้งที่ตัวผมก็มักทบทวนกับตัวเองบ่อยๆ
>>>นี่เราทำอะไรอยู่ ผมเอาแต่ใจ
>>>ตัวเองเกินไปรึเปล่าที่ดึงเธอไว้ด้วยกันแบบนี้ ผมแย่งอนาคต
>>>กักขังความฝันของเธอไว้ไหม เธอเพิ่ง
>>>ออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เธออาจต้องการตามหาฝัน อย่างที่เธอขอเวลาผมไว้ 3
>>>ปี
>>>นั้น
>>>
>>>เฮ้อ นี่เราทำบ้าไรอยู่ฟร่ะ.... คืนนั้นผมนั่งกรอกเหล้าเป็นเพื่อนไอ้ที
>>>และมันก็นั่งเหล่สาวแทนผมจนดึก
>>>
>>>“เฮ้ย บ้านนี้มีใครอยู่มั่ง มาช่วยกันหน่อยโว้ย มาลากไอ้แจ๊คช่วยหน่อย”
>>>
>>>“ขา มาแล้วๆค่า”
>>>
>>>“ยังไม่นอนเหรอครับ นักกี้ รอหมอนี่ล่ะสิ โทษนะ คืนนี้ดึกไปหน่อย
>>>พรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก นายนี่มันไม่
>>>ยอมกลับน่ะ ผมเลยต้องนั่งเป็นเพื่อนมัน แต่วางใจได้ ไม่มีเรื่องผู้หญิง
>>>มีแต่เหล้าเพียวๆจ๊ะ” ... จริง
>>>อ๊ะ
>>>
>>>“เอิ้ก เอาเหล้ามาอีกกก น้องเติมๆ”
>>>
>>>“เติมไรเล่า ถึงบ้านแล้ว ไอ่บ้า (ไม่ต้องมาแกล้งเมาอ้อนเมียเลยนะเอ็ง)
>>>ไปนะ
>>>นักกี้”
>>>
>>>“ขอบคุณพี่ทีค่ะ ทิ้งไว้ตรงโซฟานี่ล่ะ เดี๋ยวกี้ให้เด็กมาลากคอไปเองค่ะ”
>>>
>>>ชะอุย ลากคอเลยรึ นายทีนึกในใจ
>>>
>>>“เฮียจัก เดินดีดีสิ ฮู้ย เมาแล้วยังมาเดือดร้อนชาวบ้านอีก
>>>สำนึกไหมเนี่ย”
>>>นักกี้พยายามลากคอผมขึ้น
>>>ข้างบน
>>>
>>>“อืมมมมม นักกี้ เด็กน้อยยยยยย ลูกแมวน้อยของพี่”
>>>
>>>มือผมเริ่มเหมือนปลาหมึก พอถึงเตียงเธอโยนผมลง
>>>
>>>“เมาหนักเลยแฮะ ทุกทีเห็นกินพอเป็นกระสัยไม่ใช่ เฮียจัก
>>>กี้ไม่อยากยุ่งหรอกนะ
>>>เพราะถือว่าเป็น
>>>เรื่องส่วนตัว แต่นี่กินแบบไม่รู้ขีดจำกัดตัวเองแบบนี้ ไง อกหักรึไง”
>>>
>>>ว่าพลาง ก็เลื่อนมือเช็ดตัวไปพลาง
>>>
>>>“เฮ้อ น่าเบื่อชะมัด พวกขี้เมา”
>>>
>>>“รังเกียจนักก็ไม่ต้องมายุ่ง” ผมว่าพลางปัดมือเธอออก
>>>
>>>“ไรว้า คนจะเช็ดหน้าให้ เอ่อ ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง ผ้าอยู่นี่นะ
>>>ทำเองแล้วกัน”
>>>
>>>“แล้วนั่นจะไปไหน ดึกป่านนี้ทำไมยังไม่นอน” ผมเลิกแกล้งเมา
>>>แล้วถามเธอขึ้น
>>>
>>>“เล่นคอมค่า มีอะไรไหมค๊า”
>>>
>>>จะเพราะท่าทางของเธอที่นั่งพิมพ์ไปยิ้มไป บางครั้งก็หัวเราะคนเดียว
>>>ผมสงสัยจึงเดินไปหาเธอที่หน้า
>>>คอม
>>>
>>>เธอกำลังเล่น msnอยู่ มีหน้าต่างโผล่ซ้อนกันหลายอัน
>>>และคนที่เธอพูดด้วยตอนนี้ก็ใช้คำว่า ครับอยู่ ท่า
>>>ทางมีความสุขจริงนะ
>>>
>>>“ใครอ่ะ” ผมถามขึ้นลอยๆ ยืนมองอยู่หลังเธอ
>>>
>>>“เพื่อนน่ะ อยู่ต่างจังหวัด”
>>>
>>>“รู้จักกันได้ไง”
>>>
>>>“เฮ้อ เฮียจักเป็นไรอ่ะ วันนี้มาแปลก ทุกทีไม่เห็นยุ่งเลย เมาหนักแฮะ
>>>ไปนอนป่ะเฮีย”
>>>
>>>“ถามว่ารู้จักกันได้ไง” ผมเริ่มเสียงเข้ม
>>>
>>>“ก็ทางเอ็มนี่ไง”
>>>
>>>“นานยัง”
>>>
>>>“สองปีกว่า ไมเหรอ ถามอีกม่ะมันอายุเท่าไหร่ พ่อแม่ทำงานอะไร ห๊า”
>>>
>>>เธอหันไปจดจ่อกับหน้าจอโดยไม่สนใจผม และตอบคำถามแบบขอไปที
>>>
>>>“ไว้ใจได้เหรอ เขาอาจหลอกเราอยู่ก็ได้นะ ยิ่งพวกผู้ชายทางอินเตอร์เนตน่ะ
>>>ยิ่งไว้ใจไม่ได้รู้ไหม”
>>>
>>>“ยุ่งไรอ่ะ ก็บอกแล้วไง ว่ารู้จักกันนานแล้ว นานกว่ารู้จักกับเฮียจักอีก
>>>เข้าใจ๊ ”
>>>
>>>พรึบ!!!!!!
>>>
>>>ผมถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ออกทันที โมโหวุ้ย
>>>ไอ้เจ้าหนุ่มนั่นสำคัญกว่าเรางั้นเหรอ
>>>ฮึ่ม!!!
>>>
>>>“ทำไรอ่ะ ทำไรงั้นอ่ะ เฮียจักบ้าที่สุด ขี้เกียจต่อเนตใหม่นะ
>>>เมาป่วนอ่ะ”
>>>
>>>“หิวข้าว หาไรให้กินหน่อยสิ”
>>>
>>>“ก็ลงไปดูในตู้เย็นดิ๊”
>>>
>>>“ไม่เอา ทอดไข่ให้หน่อย”
>>>
>>>“ทำไม่เป็น รอเดี๋ยวล่ะกัน ดูตู้เย็นให้ มีไรเหลือมั้ย”
>>>
>>>ระหว่างที่เธอหาของกินในตู้เย็นให้ผมนั้น
>>>ไม่รู้ผีที่ไหนมาเจาะปากให้ผมถามเธอออกไป
>>>
>>>
>>>“กี้ รักเฮียจักไหม”
>>>
>>>กึก
>>>
>>>ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนเวลาหยุดหมุน
>>>
>>>“ว่าไง รักพี่บ้างไหม”
>>>
>>>“ถ้าตอบว่า “ไม่” เฮียจักจะโกธรไหม”
>>>
>>>
>>>ผมกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงไปในคอ หันหลังจะกลับขึ้นไปนอน
>>>
>>>“นั่นสินะ พี่คงเอาเปรียบเราเกินไป ที่แย่งอนาคตเรามา แยกเราจากเพื่อน
>>>จากความฝันของเรา”
>>>
>>>“เฮียจัก ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ผมหันมายกมือห้าม และเดินต่อไป
>>>
>>>“ไม่ต้องพูดหรอก อดทนหน่อยนะ ไว้เช้าเมื่อไหร่ เราไปหย่ากัน
>>>พี่จะคืนอิสระให้กี้ เราจะได้ไม่ต้อง
>>>มาทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักอีกต่อไป”
>>>
>>>“จะบ้าเหรอ อย่าทำเป็นงอนไปหน่อยน่า ฟังก่อนได้ไหม”
>>>
>>>ผมหันมามองเธอ อย่างอดทน พยายามนับหนึ่งถึงร้อย
>>>
>>>“ฟังนะเฮียจัก ทำเลือดร้อนที่โดนแอลกอฮอลเผาให้มันเย็นๆลงหน่อย
>>>แล้วฟังนี่”
>>>
>>>“กี้รู้ตัวเสมอว่า ทำอะไรอยู่ ถึงแม้่การที่เราแต่งงานกัน
>>>มันจะไม่ได้เริ่มจากความรักและความเต็มใจ
>>>ของทั้งสองฝ่าย แต่...แต่กี้ก็ชอบเฮียจักมาก
>>>เฮียจักเป็นผู้ชายที่ดีคนนึงที่กี้รู้ว่า สักวันกี้จะรักเฮียได้”
>>>
>>>“แต่เราก็ไม่ได้รักพี่หนิ”
>>>
>>>แล้วผมหันหลังเดินออกไป เธอรีบวิ่งตาม มาขวางหน้าไว้
>>>
>>>“ปั๊ดโธ่โว้ยยยย!!!!!! อย่าทำตัวเป็นเด็กน่า ฟังให้จบก่อนสิ”
>>>
>>>“มีอะไรอีก ง่วงจะนอน” ผมทนฟังต่อไปไม่ได้ เดินไปถึงเตียง
>>>ล้มตัวลงนอนหันหลังให้เธอ
>>>
>>>“เออนอนฟังไปล่ะกัน จะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”
>>>
>>>“ก่อนจะเจอกับเฮียจัก กี้ก็โดนจับคู่มาเยอะ
>>>แต่กี้ก็หนีมาตลอดและในที่สุดแด้ดมัมก็เลิกล้มไป แต่พอมาเคส
>>>เฮียจัก มันผิดไปหมด กี้คิดว่าจะลองไปพบดู
>>>แล้วจะป่วนให้อีกฝ่ายรำคาญและไม่ชอบหน้า จนเลิกไปเอง
>>>แต่มันกลับไม่ใช่”
>>>
>>>"พอเห็นหน้าเฮีย กี้คิดว่า คนหล่อๆ มีพร้อมทุกอย่าง อย่างเฮียจัก
>>>ต้องไม่มองเด็กกะโปโลแบบกี้แน่ เลย
>>>เล่นอะไรบ้าๆไป แต่เรื่องมันกลับตรงข้าม เฮียเกิดตกลง ซึ่งมันบ้า
>>>บ้ามากๆด้วย
>>>มีแต่คนสิ้นคิดเท่านั้น ที่
>>>คิดจะมีแฟนแบบกี้”
>>>
>>>งั้นผมก็เป็นพวกสิ้นคิดที่สุดในโลกใช่ไหมเนี่ย...
>>>“แล้วเฮียจักก็เริ่มสร้างความประทับใจให้กี้ทีละน้อย
>>>เฮียจักก้าวเข้ามาทำความรู้จักกับกี้แบบที่ไม่เคยมี
>>>ใครคิดจะทำ
>>>
>>>ยอมไปไหนไปกัน จำตอนที่เราไปหลงป่าเมืองกาญฯได้ไหม กี้รู้สึกปลอดภัย
>>>อุ่นใจเมื่อมีเฮียอยู่ใกล้ แม้จะ
>>>ไม่แน่ใจว่าจะออกป่าไปได้ไหม พอรอดมาได้
>>>กี้ก็บอกตัวเองว่าคนนี้แหละที่เราหามานาน คนที่จะเป็นหลัก
>>>ให้ชีวิตเราต่อจากนี้
>>>
>>>มันก็จริงที่กี้ไม่ได้รักเฮียแต่แรกพบ มาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รัก
>>>เพราะ...เพราะ
>>>เอ่อ เพราะกี้ไม่รู้จักว่า
>>>"รัก" มันเป็นยังไง กี้ไม่เคยมีแฟน และไม่คิดจะรักใคร
>>>ชีวิตกี้มีพร้อมทุกอย่าง
>>>กี้เลยไม่อยากใช้คำว่า
>>>“รัก” กับเฮียจัก"
>>>
>>>“แต่เฮียเป็นมากกว่านั้นค่ะ เฮียทำให้ กี้เคารพ นับถือ ศรัทธา
>>>ชื่นชมและเอ่อ
>>>เอ่อ ชอบเฮียมาก ...
>>>กี้คิดว่า มันน่าจะเกินนิยามคำว่า รัก ไปแล้วนะ
>>>เพราะรักแบบหนุ่มสาวคืออะไรกี้ก็ตอบไม่ได้ และไม่
>>>อยากสนใจมันด้วย"
>>>
>>>"กี้บอกได้แค่ว่า เฮียจักจะเป็นอีกครึ่งชีวิตของกี้ค่ะ"
>>>
>>>“เราเพิ่งเริ่มต้นกันเท่านั้นนะคะ และ .... และกี้ก็คิดว่า
>>>เฮียก็คงไม่สนเด็กอย่างกี้เท่าไหร่ ไม่เข้า
>>>ใจว่าทำไมอยู่ๆถึงถามคำถามงี่เง่าแบบนี้ได้
>>>ตลอดเวลากี้พยายามทำตัวเหมือนน้องสาว สร้างปัญหาให้
>>>น้อยที่สุด ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของเฮีย เพราะกลัวเฮียรำคาญและเบื่อ
>>>กลัวจะไม่ได้อยู่กับเฮียอีก ...”
>>>
>>>“เฮียจักหลับแล้วเหรอ”
>>>
>>>เงียบ
>>>
>>>อึ้งครับ ผมกำลังซึมซับคำพูดของเธอไว้ในหัวใจที่แห้งผากมาตั้งแต่ตอนเย็น
>>>จากคำพูดบ้าๆ ของไอ้ที
>>>
>>>ผมมันคิดมาก บ้าไปเองจริงๆ การกระทำต่างหากที่สำคัญ
>>>การที่เราได้อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ สำคัญ
>>>กว่าแค่คำที่เธอจะพูดว่า รัก หรือ ไม่รัก ผมนี่มันตาแก่คิดชะมัด
>>>
>>>ผมหันกลับไปเพื่อจะบอกเธอว่า ผมไม่ได้คิดกับเธอแบบนั้นสักนิด
>>>ผมไม่ได้ต้องการให้เธอเป็นน้อง
>>>
>>>แต่ช้าไป เธอเข้าห้องน้ำไปแล้ว ผมได้ยินเสียงฝักบัวเปิด
>>>ก็เธออาบน้ำแล้วหนิ
>>>อยู่ในชุดนอน แล้วจะ
>>>อาบน้ำอีกทำไม
>>>สักพักเธอก็ออกมา แล้วบอกผม
>>>
>>>“เฮียจักอาบน้ำซะนะ เปิดน้ำไว้ให้แล้ว”
>>>
>>>เธอก้มหน้าพูด น้ำเสียงเธอปลกไป เหมือน .... มันเหมือนคนคัดจมูก
>>>ผมรีบลุกตามเธอไปที่เครื่อง
>>>คอม จับมือเธอก่อนที่เสียบปลั๊กคอมอีกครั้ง
>>>
>>>“กี้ เฮียจักขอโทษ”
>>>
>>>เธอพยักหน้าเบาๆ แกะมืออกจากผมไปเสียบปลั๊กคอมพิวเตอร์
>>>แล้วกดเปิดเครื่อง
>>>
>>>ผมสังเกตว่า ตาเธอแดงก่ำ จมูกแดงด้วย ใช่เลย อาการอย่างงี้
>>>
>>>
>>>“ร้องไห้ทำไมครับคนดี”
>>>
>>>เธอส่ายหน้าช้า แล้วนั่งเก้าอี้ รอให้เครื่องรันเสร็จ หันหน้าไปอีกทาง
>>>
>>>
>>>“เฮียจักขอโทษนะครับ น๊า ยกโทษให้กันนะคร้าบ
>>>เฮียจะไม่ปากหมาอีกแล้วนะคร้าบ”
>>>
>>>เธอแอบยิ้มนิดนึง แต่ก็ทำหน้าเฉยต่อ
>>>
>>>“นะคร้าบ หันมาคุยกันดีดีนะคร้าบ เฮียขอโทษนะ
>>>เกิดมาเฮียไม่เคยง้อผู้หญิงเลยนา
>>>อายน่า หันมาเหอะ
>>>”
>>>
>>>ยังอีก งั้นต้องใช้ไม้นี้
>>>
>>>“เพื่อเป็นการไถ่โทษ พรุ่งนี้เราไปเที่ยวทะเลกัน
>>>เฮียจะพาไปเล่นเครื่องร่อนด้วย
>>>ได้ไหมครับ”
>>>
>>>ได้ผล!!!
>>>
>>>
>>>“ไปดำน้ำแบบสน้อกเกิ้ลด้วยน๊า แล้วก็ต้องสอนกี้ขี่เจทสกีด้วย”
>>>
>>>“ตกลงครับ”
>>>
>>>“เย้ๆ”
>>>
>>>
>>>ฮึฮึ ดูท่าคงลืมไปแล้วว่าเธอกำลังงอนผมอยู่
>>>และเมื่อรู้ความจริงในใจแล้วแบบนี้
>>>ผมจะขอฉีกสัญญาทิ้งล่ะ
>>>นะ นักกี้ ฮึฮึ ทำตัวเป็นเสือจำศีลมานานแระ ฮึฮึฮึ
>>>
>>>“กี้”
>>>
>>>“หืม”
>>>
>>>“นอนกัน”
>>>
>>>“ไม่อ่ะ เฮียจักนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวปิดเครื่องแล้วตามไป”
>>>
>>>“ไม่เอาอ่ะ นอนคนเดียวกลัวผี ปล่อยเครื่องมันไว้งี้แหละ”
>>>
>>>
>>>ผมลุกขึ้นยืน แล้วก้มลงอุ้มเธอไปที่เตียง
>>>
>>>
>>>“เฮีย ทำไร เดินเองได้ ปล่อยน่า จั๊กจี้”
>>>
>>>เงียบ เฮ้ย แววตาแบบนี้นี่มัน ฮ่าๆ ตายแน่แล้วตรู
>>>
>>>
>>>“เฮ่ยยยย ไม่เอาน๊าเฮีย ไหนบอกจะรักษาสัญญาไง”
>>>
>>>“สัญญาไรเหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย นอนเถอะ”
>>>
>>>ผมวางเธอลงบนเตียง แล้วเดินไปปิดไฟ
>>>
>>>
>>>“เฮ้ย ปิดไฟทำไม กี้กลัวความมืด”
>>>
>>>
>>>เงียบ....... แล้วที่นอนข้างตัวก็เริ่มยุบ
>>>เธอเริ่มเขยิบตัวหนี แต่ช้าไปแล้วหนู เสือจะขย่ำเหยื่อ
>>>มีรึจะปล่อยให้หลุดมือไปด้ายยยยยยยย
>>>
>>>.....
>>>..
>>>.
>>>
>>>
>>>ผมเพิ่งรู้นะ ว่าการผิดสัญญามันดีอย่างนี้นี่เอง น่าจะทำมาตั้งนานแล้ว
>>>รู้ม่ะผมไม่รู้สึกผิดสักนิดเลย อิอิ
>>>
>>>
>>>กับความรู้สึกที่ผมไม่ได้พบมานาน เสือผู้หญิงอย่างผมที่ไม่คิดจะได้เจอ
>>>นักกี้บริสุทธิ์ เหมือนน้ำค้างยาม
>>>เช้า เธอเหมือนผ้าขาว ที่ไม่ประสีประสาอะไรเลย
>>>และความแปลกใจนั้น กลับกลายเป็นความภูมิใจ รู้สึกเป็นเจ้าของ
>>>และหวงเธอขึ้นมาทันที ผมหวงแม้
>>>กระทั่งกับตัวผมเอง เธอดูบอบบาง น่าทะนุถนอม
>>>จนผมต้องกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
>>>
>>>
>>>“กี้ โกธรเฮียไหม”
>>>
>>>“คนผิดคำพูด ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
>>>
>>>เสียงอู้อี้ดังลอดผ้าห่มออกมาจากอกผม
>>>
>>>หึหึหึ ผมหัวเราะกับตัวเอง
>>>
>>>“ปากดีแบบนี้ ต้องโดนอีกรอบ”
>>>
>>>ผมจู่โจมเธอโดยไม่ให้ทันตั้งตัวอีกครั้ง
>>>รู้สึกเจ็บรอยหยิกที่ไหล่จากมือน้อยๆ
>>>แต่แค่นี้.....เด็กๆ ใครจะ
>>>ว่าปล้ำเมียตัวเองก็ยอมล่ะ .......
>>>
>>>สวัสดีครับ ผมชื่อแจ๊คครับ ผมมีภรรยาอย่างแท้จริงมาสองเดือนแล้วครับ
>>>ชีวิตผมเหมือนเปลี่ยนจากหน้า
>>>มือกับหลังมือครับ ผมรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของผมกับนักกี้ไม่เหมือนเดิม
>>>เธอไม่เป็นกันเองเหมือนเคย
>>>
>>>ผมว่า เธออายผมครับ และมันทำให้ผมรู้อีกอย่างว่า
>>>จากภายนอกที่ดูซ่าส์ๆนั้นแล้ว
>>>เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่
>>>ชอบเธอจะอายมาก แต่การอายของเธอแปลกครับ เธออายแบบ ไม่สนใจคนที่เธออาย
>>>เธอไม่พูด ไม่คุย
>>>แบบกวนอีก จะเรียบร้อย จะค่ะ จะขา ซึ่งมันก็ดีน่ะนะ
>>>แต่ผมอยากได้นักกี้คนเดิมกลับมาจัง แต่สิ่งหนึ่ง
>>>เปลี่ยนไปคือแววตาครับ ผมเริ่มเรียนรู้ที่อ่านสายตาของเธอออก
>>>เธอไม่พูดมากเหมือนเคย ไม่ขี้โมโห
>>>แต่ยังคงความซุ่มซ่ามและเอ๋อไว้เหมือนเดิม
>>>และผมก็ชอบให้เธอมองผมมากกว่าพูดแล้วล่ะ เพราะ
>>>เหมือนเธอกำลังบอกรักผมอยู่น่ะสิ
>>>
>>>
>>>จนวันนึง ขณะที่ผมกำลังประชุมอยู่
>>>
>>>ปึง
>>>
>>>เสียงเท้าถีบประตูห้องประชุมดังสนั่น ทุกคนในห้องตกใจ หันไปทางต้นเสียง
>>>
>>>“คุณกี้คะ เข้าไม่ได้นะคะ ท่านกำลังประชุมอยู่ค่ะ คุณกี้ เอ่อ
>>>ขอประทานโทษค่ะ
>>>ดิฉันเตือนเธอแล้ว แต่”
>>>
>>>“ไม่เป็นไร คุณมล ขอบคุณครับ ทุกคน เชิญคอฟฟี่เบรค 5 นาทีครับ”
>>>
>>>
>>>“กี้มีอะไรรึเปล่า เฮียจักกำลังประชุมนะครับ”
>>>
>>>กระซิกๆ อะฮื่อๆๆๆๆๆๆ เธอเริ่มร้องไห้
>>>
>>>“เฮียจักคนบ้า ง่า บ้าที่สุดเลยอ่า ฮื่อออออ”
>>>
>>>“กี้ เป็นไร เฮ้ย ทำหน้าบึ้ง อยู่ดีดีก็ร้องไห้ มานี่ๆ”
>>>
>>>ผมพาเธอเข้ามาคุยในห้องทำงานส่วนตัว
>>>
>>>
>>>“อื่ออออออออออ”
>>>
>>>“เป็นไรครับ ฮึ บอกเฮียจักสิ ใครแกล้งไร โอ๋ๆ เงียบก่อนนา”
>>>ผมดึงเธอมาซบกับอก
>>>ลูบหัวพลาง
>>>ปลอบ
>>>
>>>แล้วเธอก็ชี้มาที่ผม
>>>
>>>“เฮ้ยกี้ เฮียไปแกล้งอะไร อ๋อ เรื่องเมื่อคืนกะตอนเช้าอ่ะเหรอ
>>>เฮียว่าไม่ได้ทำไรรุนแรงนา”
>>>
>>>“บ้าดิ ไม่ใช่เรื่องนั้น เฒ่าลามก!!!”
>>>
>>>เอ๋า โดนเมียด่าอีก แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ต่อ
>>>
>>>“เฮียจักทำให้กี้ไปปีนหน้าผา ไปล่องแก่ง ไปขึ้นภูไม่ได้อีกแล้ว ใจร้าย
>>>คนใจร้ายที่สุด บาบาบาๆๆๆ
>>>....”
>>>
>>>หลังจากที่เธอพูดๆๆๆๆๆๆๆๆ จนเหนื่อย แล้วตบท้ายด้วยการส่งหมัด
>>>ชกผมเข้าเต็มแรง
>>>แล้วหันหลังเดิน
>>>ออไป ทิ้งผมไว้กับความเจ็บและงง
>>>
>>>
>>>มารู้ก็ตอนถึงบ้านแล้ว พ่อแม่ทั้งฝ่ายผมและเธอ อยู่กันเต็มบ้าน
>>>วิ่งวุ่นกันไปหมด
>>>
>>>“แจ๊ค เก่งมากเลยลูกแม่ ถึงจะช้าไปบ้าง แต่ในที่สุด โฮะๆ”
>>>
>>>“พ่อแจ๊ค ขอบใจนะลูก หลานคนแรก แม่ขอผู้ชายนะลูก”
>>>
>>>“เดี๋ยวก่อนครับ นี่มันอะไรกัน ผมงงหมดแล้ว”
>>>
>>>และคำพูดเมื่อตอนกลางวันของนักกี้ก็วิ่งเข้าในสมองผม
>>>
>>>
>>>“เฮ่ย”
>>>
>>>“จริงเหรอครับ”
>>>
>>>“จ๊ะ สองเดือนแระ” แม่ผมตอบตาเป็นประกายใสปิ๊งเชียว
>>>
>>>“วะฮู้ จะได้เป็นพ่อคนละโว้ยยยยยยยยยย” ผมตะโกนออกไปอย่างไม่อายทุกคน
>>>ทั้งที่ปกติผมเป็นคนเก็บ
>>>อารมณ์นะ
>>>
>>>
>>>
>>> ชีวิตผมนับว่าเริ่มเปลี่ยนแปลงนับแต่วันที่ได้เจอเธอ
>>>และจนถึงวันนี้
>>>เจ็ดปีแล้ว ที่ผมและเธอ
>>>เดินร่วมทางกันมา และมันทำให้ผมยิ่งรักเธอมากขึ้นมากขึ้น
>>>
>>> การเดินทางของเรา มีทั้งสุขและทุกข์ เราก็ยังเป็นเพื่อน
>>>เหมือนพี่น้อง
>>>และเหมือนคู่รักที่ตามหา
>>>กันมานานหลายภพ การที่เดินไปบนทางอันแสนไกล แล้วมีมือน้อยนุ่มนิ่มให้จับไว้
>>>ช่างเป็นสิ่งที่ดี ดีมากๆ
>>>สำหรับผู้ชายคนนึง
>>>
>>>
>>>“พ่อครับ พ่อ แย่แล้วครับ”
>>>
>>>เสียงเจ้าลูกชายตัวยุ่ง วิ่ง หอบ เข้ามาในห้องทำงานผมที่บริษัท
>>>
>>>“แม่หายตัวไปอีกแล้วคร้าบ”
>>>
>>>“อ่าว ไม่อยู่บ้านย่าเหรอลูก”
>>>
>>>เด็กชายตัวน้อยส่ายหน้า แล้วยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผม
>>>เขียนว่า “ภูกระดึง”
>>>
>>>ผมอ่านประโยคนั้น แล้วอมยิ้ม
>>>
>>>“เจอรี่ คืนนี้นอนกับย่านะครับ เด็กดีอย่าดื้อล่ะ คุณมล
>>>ผมฝากส่งลูกกลับบ้านด้วย แล้วก็ยกเลิกนัดทุกอย่าง
>>>ของวันนี้ และอีก 2 วันด้วยนะ”
>>>
>>>“แล้วเจ้านายจะไปไหนล่ะค่ะ”
>>>
>>>“ Honeymoon

No comments: